สหกรณ์บุรีรัมย์ เปิดตลาดนัดรับซื้อข้าวเปลือกของสหกรณ์การเกษตรกระสัง จำกัด ให้ราคาสูงกว่าท้องตลาด ช่วยชาวนาหลังประสบปัญหาราคาตกต่ำ สมาชิก และเกษตรกรแห่นำข้าวเปลือกมาขายเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีแผนรวบรวมข้าวเปลือกปีการผลิต 2564/65 ทั้งสิ้นจำนวน 5,000 ตัน ขณะนี้รวบรวมข้าวเปลือกได้แล้วกว่า 2,400 ตัน มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท วันที่ 19 มกราคม 2565 เวลา 09.00 น.นายชาย คงแก้ว ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ เขตตรวจราชการที่ 13, 14 พร้อมด้วยนายสุภาพ เกิดบุญ สหกรณ์จังหวัดบุรีรัมย์ เข้าตรวจเยี่ยมและติดตามการรวบรวมข้าวเปลือกแห้งของ สหกรณ์การเกษตรกระสัง จำกัด โดยสหกรณ์เปิดตลาดรับซื้อข้าวเปลือกของสมาชิกสหกรณ์ และเกษตรกรทั่วไป ระหว่างวันที่ 17 – 21 มกราคม 2565 ณ ตลาดกลางสินค้าเกษตรสหกรณ์การเกษตรกระสัง จำกัด บ้านหนองปลาไหล ต.กระสัง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ โดยมีเป้าหมายในการรวบรวมข้าวเปลือกแห้ง จำนวน 1,000 ตัน มีแผนรวบรวมข้าวเปลือกปีการผลิต 2564/65 ทั้งสิ้นจำนวน 5,000 ตัน ซึ่งการรวบรวมข้าวเปลือก ณ วันที่ 17 มกราคม 2565 จำนวน 2,400.59 ตัน มูลค่า 20,085,302.00 บาท คิดเป็นร้อยละ 48.01 ของแผนจากสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งได้นำข้าวเปลือกแห้งมาจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาแปรรูปเป็นข้าวสารจำหน่ายภายใต้ผลิตภัณฑ์ ข้าวสารหอมมะลิแท้ 100% ตราเกลียวเชือก สหกรณ์การเกษตรกระสัง จำกัด และ ข้าวสารหอมมะลิตราภูรุ้ง นายเรียม โกยรัมย์ ประธานกรรมการ สหกรณ์การเกษตรกระสัง จำกัด กล่าวว่า การจัดตลาดนัดข้าวเปลือก เพื่อดำเนินการรวบรวมข้าวเปลือกแห้งจากสมาชิกและเกษตรกร ช่วยเหลือสมาชิก เกษตรกร ในช่วงราคาข้าวเปลือกตกต่ำ สร้างกลไกการแข่งขัน การรับซื้อผลผลิตข้าวเปลือกของเกษตรกร ให้มีอำนาจต่อรองมากขึ้น มีความเป็นธรรมทางด้านราคา ให้สมาชิกและเกษตรกรทั่วไป มีแหล่งจำหน่ายข้าวเปลือก สร้างการมีส่วนร่วมให้สมาชิกมีส่วนร่วมในการดำเนินธุรกิจรวบรวมผลิตผลทางการเกษตรและส่งเสริมการเพิ่มปริมาณธุรกิจสหกรณ์ อีกทั้ง ในช่วงนี้เกษตรกรต้องส่งชำระหนี้สถาบันการเงินที่ได้ไปกู้ยืมมา และส่วนหนึ่งต้องการเงินเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือนและลงทุนเพาะปลูกในฤดูกาลใหม่ จึงต้องช่วยเหลือเกษตรกรโดยการพยุงราคารับซื้อข้าวเปลือกให้สูงกว่าท้องตลาด เฉลี่ย 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม หรือตันละ 12,000 บาท ที่เปอร์เซ็นต์ข้าว 42 กรัม และปรับลดตามคุณภาพข้าวเปลือกของเกษตรกร และยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษให้กับสมาชิกที่นำข้าวเปลือกมาจำหน่ายเพื่อชำระหนี้ให้กับสหกรณ์ โดยสหกรณ์ให้ส่วนต่างเพิ่มอีก 20 สตางค์ต่อกิโลกรัม หรือตันละ 12,200 บาท ด้าน นายนาม พรหมสวัสดิ์ สมาชิกสหกรณ์บ้านเมืองไผ่ ที่นำข้าวมาขาย บอกว่า ตนเป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรกระสัง และเห็นว่าสหกรณ์การเกษตรกระสัง มีโครงการรับซื้อข้าวเปลือก จึงได้นำข้าวออกมาขาย ได้ราคารับซื้ออยู่ที่ 12 บาท/กิโลกรัม ซึ่งก็เป็นที่น่าพอใจ ส่วนเงินที่ได้ก็จะนำไปใช้หนี้ และเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว ขณะที่ นายชาย คงแก้ว ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ เขตตรวจราชการที่ 13, 14 กล่าวว่า สถานการณ์ข้าวในช่วงนี้มีราคาข้าวเปลือกตกต่ำ สหกรณ์จึงเปิดตลาดนัดรับซื้อข้าวเปลือก เพื่อให้เกษตรกรที่เป็นสมาชิก และเกษตรกรทั่วไป ได้มีทางเลือก มีช่องทางที่ขายข้าวเปลือกได้ราคาที่เป็นธรรมด้วยสหกรณ์ที่มีมาตรฐานด้านการชั่งน้ำหนัก การตรวจสอบคุณภาพข้าว และการรับซื้อที่ราคาสูงกว่าท้องตลาดทั่วไป ซึ่งมีการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรและสมาชิกทราบ จึงทำให้มีเกษตรกรนำข้าวเปลือกมาขายที่ตลาดนัดข้าวเปลือกครั้งนี้ เป็นจำนวนมาก