"นายกฯ" ไม่นิ่งนอนใจเกาะติดโควิด-19ใกล้ชิด แย้ม"สธ."จ่อชง "ศบค."ปรับพื้นที่โซนสีของแต่ละจังหวัดพฤหัสฯ นี้ พร้อมขอบคุณคนไทยมีวินัยป้องกันเต็มที่ ด้าน"โควิดไทย"ตายเพิ่ม 18ราย ติดเชื้อรายวันลดลงเล็กน้อย 6,397 ราย เผยติดครบทุกจว. เกินร้อยทุกภาค "กทม.-ชลบุรี" ตัวเลขพุ่ง ขณะที่ทั่วไทยฉีดแล้ว 109.8 ล้านโดสเข็มแรก 72% เข็มสอง 66.1% เมื่อวันที่ 18 ม.ค.65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ขอบคุณคนไทยทุกคนที่ปฏิบัติตามมาตรการการดูแลตนเองแบบครอบจักรวาล ในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งไทยแตกต่างจากหลายประเทศ เพราะยังสามารถควบคุมการแพร่ระบาด และผู้เสียชีวิตอยู่ในระดับต่ำ และในวันที่ 20 ม.ค.นี้ นายกฯ จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 หรือศบค. โดยกระทรวงสาธารณสุขเตรียมเสนอการปรับพื้นที่โซนสีของแต่ละจังหวัด เป็นไปเพื่อกำหนดมาตรการสำหรับกิจการ/กิจกรรมต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโอไมครอน รวมทั้งจะมีการประเมินสถานการณ์มาตรการเข้าประเทศ และความปลอดภัยของคนในประเทศ ขณะที่ ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 6,397 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 6,232 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 165 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสมมีจำนวน 114,376 ราย หายป่วยกลับบ้านได้ 6,637 ราย เสียชีวิต 18 ราย รวมยอดเสียชีวิตสะสม มีจำนวน 21,956 ราย นอกจากนี้ ยังพบว่า ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้ง 77 จังหวัด โดยกทม.ยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุด และตัวเลขยังเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 753 ราย ทิ้งห่างอันดับ 2 สมุทรปราการ 598 ราย ขณะที่อันดับ 3 ชลบุรี พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเกินครึ่งพัน ทั้งนี้พบว่าอันดับ 4-10 ตัวเลขผู้ติดเชื้อล้วนลดลงจากเมื่อวาน โดยมีจังหวัดสตูล ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่น้อยที่สุดคือ 2 รายและพบมี 15 จังหวัด ที่พบผู้ปวยติดเชื้อรายใหม่เกินร้อย และผู้ติดเชื้อรายใหม่เกินร้อยยังคงพบในทุกภาค ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานจำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ.64-17 ม.ค.65) รวม 109,828,653 โดส ใน 77 จังหวัด ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 17 ม.ค.65ยอดฉีดทั่วประเทศ 286,508 โดสเข็มที่ 1 : 25,233 รายเข็มที่ 2 : 57,202 รายเข็มที่ 3 : 204,073 รายจำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 51,834,424 ราย (คิดเป็น 72.0% ของจำนวนประชากร)จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 47,637,067 ราย(คิดเป็น 66.1% ของจำนวนประชากร)จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 10,357,162 ราย(คิดเป็น 14.4% ของจำนวนประชากร)ทั้งนี้ยังคงพบว่ากลุ่มประชาชนทั่วไป ยังคงได้รับวัคซีนน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น (ยกเว้นกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่ปรากฏข้อมูล) โดยเข็มแรกอยู่ที่ 69.0% เข็มสองอยู่ที่ 62.7%