เมื่อวันที่ 14 ม.ค.65 นายจีระพัฒน์ พันธุ์ทวี เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวถึงผลการดำเนินงานของศาลยุติธรรมในรอบปี 2564 มีการพิพากษาคดี ตั้งแต่เดือน ม.ค.- ธ.ค.64 โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ SMART COURT มาอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชน ให้สอดคล้องกลับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยศาลชั้นต้น ศาลชั้นอุทธรณ์ และศาลฎีกาพิจารณาพิพากษาคดีทั้งสิ้น 1,194,804 คดี จากคดีค้างเก่าและคดีรับฟ้องใหม่ โดยคดียาเสพติด การจราจร การพนัน บัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล เป็นคดีส่วนใหญ่ที่ศาลยุติธรรมได้พิจารณา รวม 1,560,026 คดี แบ่งเป็นคดีแพ่ง 1,030,906 คดี และคดีอาญา 529,120 คดี โดยขณะนี้ปริมาณคดีค้างพิจารณาคงเหลือจำนวน 365,222 คดีคิดเป็นร้อยละ 23.41 โดยในปี 2565 จะเริ่มใช้การพิจารณาคดีในวันหยุดเพื่อเร่งรัดให้คดีความเสร็จสิ้น โดยในปี 2565 ศาลยุติธรรมยังมีนโยบาย มุ่งยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภควิถีใหม่โดยมีแผนจัดตั้ง "แผนกคดีซื้อขายออนไลน์ในศาลแพ่ง" เพื่อช่วยเหลือผู้ประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากการซื้อขายสินค้าบริการทางออนไลน์ ซึ่งผู้เสียหายสามารถยื่นฟ้องได้ด้วยตนเองโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผ่านระบบ e-Filing ขณะนี่อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบและประสานงานกับองค์กรภาคีต่างๆ เพื่อสนับสนุนการให้ข้อมูลที่จำเป็นในการดำเนินคดี อันเป็นการอำนวยความสะดวกและลดภาระให้แก่ผู้บริโภคและประชาชน ที่ไม่ต้องใช้ทนายในการฟ้องร้องคดี รวมถึงไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่ศาล เพื่อลดความแออัด ตามนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ของรัฐบาล ส่วนการประกันสิทธิของคู่ความในคดีอาญา นั้นศาลยุติธรรมยังเน้นคุ้มครองผู้เสียหายจากคดีอาญา และยังมีหลักประกันสิทธิให้แก่ผู้ถูกกล่าวหาด้วยการยื่นประกันตัวโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์เพื่อลดการคุมขังโดยไม่จำเป็นโดยคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญาตลอดปี 2564 ศาลได้อนุญาตตามคำร้องไปถึงเกือบร้อยะ 90 นอกจากนี้ยังพัฒนาระบบรัษาความปลอดภัยในบริเวณศาลด้วยการคัดกรองตรวจอาวุธและติดตั้งกล้องวงจรปิด