วันที่ 14 ม.ค.65 นายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ (กสส.) เปิดเผยว่า ผลการจำหน่ายสินค้าเกษตรของสถาบันเกษตรกรผ่านแพลตฟอร์มกลาง ThaiTrade.com ซึ่งเชื่อมโยงกับหลายประเทศทั่วโลก ในนามของคณะทำงานการสร้างแพลตฟอร์มกลางในโครงการเกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยได้มีการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงพาณิชย์ตลอดปี 2564 ที่ผ่านมาเพื่อส่งเสริมให้สถาบันเกษตรกรมีการค้าขาย ผ่านระบบออนไลน์ให้มากขึ้น เป็นการยกระดับรายได้และขยายตลาดสินค้าเกษตรในขบวนการสหกรณ์ ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแจ้งว่าผลการเจรจาธุรกิจเกิดมูลค่าการซื้อขายคาดการณ์ 1 ปี ประมาณ 80 ล้านบาท (ข้อมูล 5 ม.ค.65) จากสหกรณ์ที่เข้าโครงการนำร่องโครงการจำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์ม 8 แห่ง สินค้าจำนวน 42 รายการ ได้แก่ สินค้ากลุ่มข้าว โคนมและโคเนื้อ ซึ่งสหกรณ์ทั้ง 8 แห่ง ได้เข้าร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้นำเข้าจำนวน 22 บริษัท จาก 9 ประเทศคือ ลาว เวียดนาม สิงคโปร์ พม่า ฟิลิปปินส์ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่นและอินเดีย จากความสำเร็จเบื้องต้นนี้จะเป็นการทำให้สหกรณ์อื่นๆ เห็นช่องทางการขยายโอกาสทางการตลาดได้เพิ่มมากขึ้นสร้างโอกาสการสร้างรายได้เพิ่มให้กับเกษตรที่เป็นสมาชิกสหกรณ์
“ทั้งนี้ ได้เกิดคู่เจรจาการค้า 59 คู่ สินค้าที่ได้รับความสนใจสูงสุดคือ ข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ นมอัดเม็ด สินค้าสหกรณ์ที่เข้าโครงการนำร่อง เป็นสินค้าที่มีมาตรฐานการผลิตที่ดี มีคุณภาพ ในปี 64 ที่ผ่านมาเมื่อเข้าร่วมโครงการนั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เปิดเวทีอบรมการค้าบนระบบแพลตฟอร์ม เช่น การทำกิจกรรมการค้าออนไลน์แบบจับคู่ธุรกิจ หลักเกณฑ์การขายสินค้าของบนแพลตฟอร์มเป็นต้นให้กับทั้ง 8 สหกรณ์ เนื่องจากผู้ค้าต้องมีความพร้อมด้านสินค้าสำหรับยอดการเจรจาธุรกิจ ทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อตอบโจทย์ผู้ซื้อในระบบ
นอกจากนั้นยังมีความร่วมมือกับภาคเอกชนสนับสนุนช่องทางจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม Phenixbox.com ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสในการขยายตลาดของสถาบันเกษตรกรอีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งในความร่วมมือนี้มี 19 สหกรณ์ให้ความสนใจเข้าร่วม และได้มีการเจรจากับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมในเครือ AWC จำนวน 12 สหกรณ์ เจรจากับผู้ประกอบการ 14 แห่ง มีคู่เจรจารวม 41 คู่ ผลการเจรจา คาดว่าใน 1 ปีนี้ จะมียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 3 ล้านบาท (ข้อมูล 5 ม.ค. 65)”รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว
สำหรับสหกรณ์นำร่องจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มกลาง ThaiTrade.com ในปี 2564 มีจำนวน 8 แห่ง ประกอบด้วย สหกรณ์การเกษตรปักธงชัย จำกัด สหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด จ.นครราชสีมา สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธกส.สุรินทร์ จำกัด จ.สุรินทร์ สหกรณ์โคเนื้อกำแพงแสน จำกัด จ.นครปฐม สหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด จ.ร้อยเอ็ด สหกรณ์โคนมหนองโพ จำกัด(ในพระบรมราชูปถัมภ์) จ.ราชบุรี สหกรณ์การเกษตรเมืองลับแล จำกัด จ.อุตรดิตถ์ สหกรณ์โคนมมวกเหล็ก จำกัด จ.สระบุรี และในปี 2565 ตั้งเป้าว่าจะดึงสหกรณ์เข้าร่วมการจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม ThaiTrade.com อีกประมาณ 10 แห่ง ซึ่งจะต้องเป็นสหกรณ์ที่มีความพร้อมในการค้าขายกับต่างประเทศ และตั้งเป้าอบรมสหกรณ์เข้าร่วมค้าผ่านแพลตฟอร์ม Phenixbox.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการค้าในประเทศประมาณ 70 สหกรณ์ โดยจะให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนากระบวนการผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐานและรักษาคุณภาพของสินค้า รวมถึงระบบการตรวจสอบย้อนกลับ ซึ่งจะช่วยขยายช่องทางในการจำหน่ายสินค้าสหกรณ์ผ่านตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้นต่อไป