“สุพัฒนพงษ์” แย้มเป็นไปได้ผุดโครงการ “คนละครึ่ง”เฟส4 เร็วก่อนกำหนด "มหาดไทย"สั่ง"ผวจ." ทั่วประเทศช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพพุ่ง จัด"ตลาดนัด-ชุมชน" ขายของราคาถูก ส่งเสริมแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เมื่อวันที่ 13 ม.ค.65 นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า การจัดทำโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 หลังจากกระทรวงการคลังอยากให้เร่งผลักดันโครงการออกมาเร็วขึ้น จากเดิมที่กำหนดเริ่มในเดือนมี.ค.– เม.ย.65 ว่า ซึ่งมีแนวโน้มเป็นไปได้ แต่คงต้องหารืออีกครั้ง และประเมินสถานการณ์ความเหมาะสม ตอนนี้ยังกำลังพิจารณามาตรการอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย ส่วนจะมีการทำโครงการคนละครึ่งไปทั้งปีนี้เลยหรือไม่ คงต้องมาคุยกันก่อน ด้าน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการแก้ปัญหาค่าครองชีพของประชาชนที่สูงขึ้น เนื่องจากการปรับราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในปัจจุบัน ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้กำชับให้เร่งพิจารณาบรรเทาความเดือดร้อน จากผลกระทบดังกล่าวในระดับพื้นที่ให้กับประชาชน “เพื่อให้การแก้ไขปัญหาและบรรเทาผลกระทบด้านค่าครองชีพของพี่น้องประชาชนเป็นไปตามข้อสั่งการของนายกฯ และรมว.มหาดไทย จึงได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ดำเนินการแก้ไขและบรรเทาปัญหาค่าครองชีพครัวเรือน ด้วยการจัดตลาดนัด ตลาดชุมชน จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาประหยัด พร้อมทั้งบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจสินค้า ไม่ให้มีการจำหน่ายเกินราคา กักตุน หรือปฏิเสธการจำหน่ายสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพ หากพบการกระทำผิด ให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง” นายสุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการแก้ไขปัญหาด้านค่าครองชีพครัวเรือนเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ตามแนวทางพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา โมเดล เพื่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ การมีส่วนร่วม การพึ่งพาตนเอง รวมไปถึงการขับเคลื่อนโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง (SEDZ) โดยการพัฒนาคนให้มีความรู้ในด้านต่างๆ ที่เหมาะสมกับภูมิสังคมของตนตามฐานะและกำลังในการประกอบสัมมาชีพเพื่อเลี้ยงตัวเองตามลำดับขั้น สร้างพื้นฐานในการดำรงชีพให้พี่น้องประชาชน รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหารในครัวเรือน ตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เช่น การปลูกพืชผักสวนครัว ปลูกพืชสมุนไพร เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา เป็นต้น นอกจากนี้ ส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนได้ประกอบอาชีพ และการประกอบอาชีพที่ยั่งยืน รวมไปถึงให้เชิญชวนกลุ่ม และสมาชิกของกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กลุ่ม OTOP และภาคีเครือข่ายอื่นๆ จัดอบรม หรือฝึกสอนวิชาชีพ อาทิ การทำอาหาร การจำหน่ายพืชผักสวนครัว หรือทำอาหารราคาประหยัด เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ