วันนี้ยอดผู้ป่วยอาการหนักปอดอักเสบ 520 ราย และมีอาการโคม่าต้องใส่เครื่องช่วยหายใจจำนวน 110 ราย ขยับตัวขึ้นจากเมื่อวานเล็กน้อย เช่นเดียวกับยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้พบ 8,167 ราย มาจากต่างประเทศ 239 ราย แต่เมื่อรวมกับผู้ป่วยจากการตรวจ ATK 1,789 ราย จะมีผู้ติดเชื้อรวมสูงถึง 9,956 ราย เสียชีวิต 14 ราย ทั้งนี้กลุ่มเสี่ยงเสียชีวิตส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มโรคเรื้อรัง และส่วนใหญ่ติดเชื้อจากคนใกล้ชิด สำหรับจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุด คือ ชลบุรี จำนวน 832 ราย ขยับอันดับขึ้นจากเมื่อวาน พบการเสียชีวิตกระจายในหลายพื้นที่ โดยพบเสียชีวิตสูงสุดในนครราชสีมา 3 ราย ส่วนยอดติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง มีจำนวน 66 ราย รักษาหาย 3,845 ราย ยังรักษาอยู่ 70,594 ราย
วันที่ 13 ม.ค.2565 ศูนย์ข้อมูลCOVID-19 รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 8,167 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 7,928 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 239 ราย ติดเชื้อในประเทศ (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพสูงถึง 7,784 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 78 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 66 ราย) รวมยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63 รวม 2,300,457 ราย อย่างไรก็ตามหากรวมยอดผู้ป่วยจากการตรวจ ATK จำนวน 1,789 ราย ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่จะมีถึง 9,856 ราย
วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 14 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 21,883 ราย หายป่วยอีก 3,845 ราย รวมยอดรักษาหาย 2,207,980 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 70,594 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.40,343 ราย ในรพ.สนาม/HI-CI 30,251 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 520 ราย มีผู้ป่วยหนักนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 110 ราย
สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต จำนวน 14 ราย พบเป็นคนไทยทั้งหมด เป็นเพศชาย 8 ราย เพศหญิง 6 ราย อายุ 32-87 ปี อยู่ในพื้นที่ นครราชสีมา มากสุด 3 ราย โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความรุนแรงของโรคและเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น

