นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า​ ขณะนี้กรมสรรพากรกำลังหารือกับสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย เกี่ยวกับการเก็บภาษีคริปโท โดยในปัจจุบันมีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว​ ปีนี้ก็มีคนที่ยื่นเสียภาษีตัวนี้ ในปี 2565 จะมีการกำหนดในรายละเอียดให้ชัดเจนขึ้น​ เพื่อให้การยื่นแบบง่ายขึ้น โดยในประมวลรัษฎากรของกรมสรรพากรปัจจุยันให้อำนาจแก่กรมสรรพากร จัดเก็บภาษีรายได้ตัวนี้อยู่แล้ว โดยกฎหมายมีมาตั้งแต่ปี 2561 ในหลักการของการจัดเก็บภาษีนั้น ต้องการสร้างความเป็นธรรม โดยคนที่ใช้ทรัพยากร หรือคนที่มีรายได้ควรมีหน้าที่ต้องเสียภาษีให้กับรัฐ แต่การออกข้อกำหนดให้ยกเว้นภาษีบางเรื่อง เพื่อเป็นการสนับสนุนให้เกิดการลดต้นทุนในภาคส่วนนั้นๆเป็นการชั่วคราว อย่างในกรณีการซื้อขายหุ้นที่ได้รับการยกเว้นมา 30 ปี อย่างไรก็ตามในปัจจุบันรายได้ของนายหน้าซื้อขาย (โบรกเกอร์)ต้องเสียภาษีอยู่แล้วด้วย ขอยืนยันว่า การจัดเก็บภาษีจากการขายคริปโท และภาษีจากการขายหุ้น นั้นเป็นไปเพื่อขยายฐานภาษี และสร้างเม็ดเงินมาพัฒนาประเทศ สำหรับการเก็บภาษีคริปโทนั้น ไม่ได้ต้องการควบคุมการขยายตัวของคริปโท แต่เนื่องจากภาษีตัวนี้ถูกกำหนดไว้ในกฎหมายในปัจจุบันอยู่แล้ว ส่วนการเก็บภาษีจากการขายหุ้นก็เช่นกัน มีการกำหนดไว้ในกฎหมายเพียงแต่ยกเว้นให้เท่านั้น สำหรับการจัดเก็บภาษีจากการซื้อขายหุ้นนั้น ในต่างประเทศมีการเก็บจากกำไรจากการลงทุน (Capital gain) หรือภาษีธุรกิจเฉพาะ เช่นกันกับภาษีคริปโท ที่มีการเก็บภาษีจาก capital gain หรือจากรายการธุรกรรม (Transaction) ซึ่งกระทรวงการคลังกำลังพิจารณาในเรื่องแนวทางการจัดเก็บภาษีทั้งสองตัวนี้ว่าจะเลือกใช้แนวทางใด