เมื่อวันที่ 2 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากโลกโซเซียลเผยแพร่เรื่องราวจระเข้โผล่ที่ในพื้นที่ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี หลายคนทั้งฮือฮาทั้งผวาไปตามๆ กันหวั่นจะทำร้ายชาวบ้าน โดยจระเข้ตัวใหญ่อยู่ต้นน้ำของอ่างเก็บน้ำลำพันชาดแถวบ้านวังทอง บ้านคำยาง ต.ผาสุก อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี
ต่อมาวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดป่าไม้งาม ต.ผาสุก อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นอีกจุดที่มีชาวบ้านพบกับจระเข้ตัวเขื่องนอนอาบแดดอยู่บริเวณนี้ โดยได้พบกับนายวิชธวัช วรรณพัฒน์ หรือ “นุ่ม” อายุ 29 ปี ชาวบ้านบ้านคำยาง ต.ผาสุก อ.วังสามหมอ และเป็นเด็กวัด วัดป่าไม้งาม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องจระเข้ที่ลำพันชาด ใครบอกไม่มีและไม่เชื่อ ตนเองบอกได้เลยตนเองเชื่อและจระเข้มีอยู่จริงๆ เห็นจะจะมาหลายเดือนแล้ว ขณะนอนอาบแดดอยู่บริเวณโขดหินฝั่งอีกฝั่งของวัด ตอนนั้นถ่ายรูปเอาไว้ได้
นายวิชธวัช บอกอีกว่า เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ตนเองและเพื่อนได้พาช่วยพระอาจารย์ปลูกต้นไม้บริเวณวัดและจะข้ามไปอีกฝั่งของลำห้วยที่เป็น อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ตอนประมาณเก้าโมง ผมก็เห็นจระเข้ตัวใหญ่นอนอาบแดดอยู่ข้างริมน้ำ ซึ่งตรงจุดนี้จะมีลักษณะคล้ายถ้ำ หากน้ำลดจะมีร่องลึกเข้าไป เขาจะนอนเล่นอยู่ตรงนี้ประจำ ถามว่ากลัวมั้ย บอกได้เลยไม่กลัว เพราะเห็นมาตั้งแต่เด็ก หากขึ้นไปต้นน้ำแถวบ้านวังใหญ่ บ้านวังทองก็จะเห็นอีกตัวเป็นจระเข้เผือก 2 ตัวที่เจอมีลักษณะใหญ่ขนาดกว้างเท่ากระสอบปุ๋ยความยาวประมาณ 3 เมตร ถามว่ากลัวไหม ไม่กลัวครับ ปกติก็ลงเล่นน้ำในลำห้วยและพายเรือข้ามฝั่งช่วยงานวัดประจำ คิดว่าเราไม่ทำอะไรเขา เขาก็คงไม่ทำอะไรเรา
นายนวิชธวัช บอกอีกว่า เมื่อช่วงเข้าพรรษาปี 64 ที่แล้ว น้องชายก็ถ่ายคลิปเอาไว้ได้พอดีช่วงก่อนเที่ยง เห็นเป็นจระเข้ตัวใหญ่ ตัวที่ตนเองเห็นนอนอาบแดดอยู่บริเวณถ้ำตรงข้ามกับศาลาที่ทำไว้ริมน้ำ โดยวันนั้นเจ้าอาวาสได้ให้พวกตนมาช่วยทำศาลาริมน้ำของวัด น้องชายก็เห็นจระเข้ตัวเป็นๆ ก็เลยถ่ายคลิปเอาไว้ได้ ตามที่คลิปที่ให้ดู
ส่วนพระสกุล ธีรปัญโญ พระลูกวัดที่วัดป่าไม้งาม บอกว่า ใครบอกว่าไม่เชื่อว่าจระเข้มีจริงที่ลำพันชาด แต่อาตมาเชื่อเพราะจำพรรษาอยู่วัดนี้มา 9 ปี เห็นจระเข้ทุกปี น่าจะเป็นจระเข้ตามธรรมชาติ ก็ปล่อยเขาไป เราไม่ได้ไปทำร้ายเขา แต่หากใครไม่เชื่อมาอยู่ที่วัดลองมาสังเกตดูได้เลย โดยลำห้วยลำพันชาด มีพื้นที่กว้างใหญ่กินพื้นที่หลายพันไร่ ตั้งแต่บ้านวังใหญ่วังทอง ต.ผาสุก ยาวไปถึง ต.หนองกุงทับม้า และเป็นรอยต่อระหว่าง อ.วังสามหมอ และติดต่อกับอ.คำม่วง และอ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์
สำหรับอำเภอวังสามหมอถือว่าเป็น 1 ในอำเภอที่ได้ชื่อว่ามีตำนานเกี่ยวข้องกับจระเข้ ได้ก่อตั้งเป็นกิ่งอำเภอวังสามหมอ เมื่อ พ.ศ. 2518 และได้รับยกฐานะ เป็นอำเภอเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2524 นาม “วังสามหมอ” มาจากตำนานที่ว่า มีจระเข้ใหญ่ตัวหนึ่ง ได้หลงกลืนเอาร่างธิดาของเจ้าเมืองท่าขอนยาง และกลัวความผิดจึงหนีการตามล่ามาอาศัยอยู่ที่วังน้ำใหญ่ ของลำน้ำพันชาด พอเจ้าเมืองได้ข่าว จึงให้หมอจระเข้มาปราบจระเข้ตัวนี้ โดยให้หมอผู้มีเวทย์มนต์มาทำพิธี แต่หมอจระเข้ 2 คนแรกเป็นชายสู้พญาจระเข้ไม่ได้จนต้องสังเวยชีวิต คนสุดท้ายเป็นหมอผู้หญิง น่าจะชื่อ “นางคำบาง” จึงปราบจระเข้ได้ เพราะการที่ใช้หมอจระเข้ถึง 3 คนนี้เอง วังน้ำแห่งนี้ จึงถูกตั้งชื่อว่า “วังสามหมอ” และถูกนำมาใช้เป็นชื่ออำเภอในที่สุด และแต่ละมุมเข้าตัวอำเภอจะมีรูปจระเข้อยู่
นายวิชธวัช บอกอีกว่า เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ตนเองและเพื่อนได้พาช่วยพระอาจารย์ปลูกต้นไม้บริเวณวัดและจะข้ามไปอีกฝั่งของลำห้วยที่เป็น อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ตอนประมาณเก้าโมง ผมก็เห็นจระเข้ตัวใหญ่นอนอาบแดดอยู่ข้างริมน้ำ ซึ่งตรงจุดนี้จะมีลักษณะคล้ายถ้ำ หากน้ำลดจะมีร่องลึกเข้าไป เขาจะนอนเล่นอยู่ตรงนี้ประจำ ถามว่ากลัวมั้ย บอกได้เลยไม่กลัว เพราะเห็นมาตั้งแต่เด็ก หากขึ้นไปต้นน้ำแถวบ้านวังใหญ่ บ้านวังทองก็จะเห็นอีกตัวเป็นจระเข้เผือก 2 ตัวที่เจอมีลักษณะใหญ่ขนาดกว้างเท่ากระสอบปุ๋ยความยาวประมาณ 3 เมตร ถามว่ากลัวไหม ไม่กลัวครับ ปกติก็ลงเล่นน้ำในลำห้วยและพายเรือข้ามฝั่งช่วยงานวัดประจำ คิดว่าเราไม่ทำอะไรเขา เขาก็คงไม่ทำอะไรเรา
นายนวิชธวัช บอกอีกว่า เมื่อช่วงเข้าพรรษาปี 64 ที่แล้ว น้องชายก็ถ่ายคลิปเอาไว้ได้พอดีช่วงก่อนเที่ยง เห็นเป็นจระเข้ตัวใหญ่ ตัวที่ตนเองเห็นนอนอาบแดดอยู่บริเวณถ้ำตรงข้ามกับศาลาที่ทำไว้ริมน้ำ โดยวันนั้นเจ้าอาวาสได้ให้พวกตนมาช่วยทำศาลาริมน้ำของวัด น้องชายก็เห็นจระเข้ตัวเป็นๆ ก็เลยถ่ายคลิปเอาไว้ได้ ตามที่คลิปที่ให้ดู
ส่วนพระสกุล ธีรปัญโญ พระลูกวัดที่วัดป่าไม้งาม บอกว่า ใครบอกว่าไม่เชื่อว่าจระเข้มีจริงที่ลำพันชาด แต่อาตมาเชื่อเพราะจำพรรษาอยู่วัดนี้มา 9 ปี เห็นจระเข้ทุกปี น่าจะเป็นจระเข้ตามธรรมชาติ ก็ปล่อยเขาไป เราไม่ได้ไปทำร้ายเขา แต่หากใครไม่เชื่อมาอยู่ที่วัดลองมาสังเกตดูได้เลย โดยลำห้วยลำพันชาด มีพื้นที่กว้างใหญ่กินพื้นที่หลายพันไร่ ตั้งแต่บ้านวังใหญ่วังทอง ต.ผาสุก ยาวไปถึง ต.หนองกุงทับม้า และเป็นรอยต่อระหว่าง อ.วังสามหมอ และติดต่อกับอ.คำม่วง และอ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์
สำหรับอำเภอวังสามหมอถือว่าเป็น 1 ในอำเภอที่ได้ชื่อว่ามีตำนานเกี่ยวข้องกับจระเข้ ได้ก่อตั้งเป็นกิ่งอำเภอวังสามหมอ เมื่อ พ.ศ. 2518 และได้รับยกฐานะ เป็นอำเภอเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2524 นาม “วังสามหมอ” มาจากตำนานที่ว่า มีจระเข้ใหญ่ตัวหนึ่ง ได้หลงกลืนเอาร่างธิดาของเจ้าเมืองท่าขอนยาง และกลัวความผิดจึงหนีการตามล่ามาอาศัยอยู่ที่วังน้ำใหญ่ ของลำน้ำพันชาด พอเจ้าเมืองได้ข่าว จึงให้หมอจระเข้มาปราบจระเข้ตัวนี้ โดยให้หมอผู้มีเวทย์มนต์มาทำพิธี แต่หมอจระเข้ 2 คนแรกเป็นชายสู้พญาจระเข้ไม่ได้จนต้องสังเวยชีวิต คนสุดท้ายเป็นหมอผู้หญิง น่าจะชื่อ “นางคำบาง” จึงปราบจระเข้ได้ เพราะการที่ใช้หมอจระเข้ถึง 3 คนนี้เอง วังน้ำแห่งนี้ จึงถูกตั้งชื่อว่า “วังสามหมอ” และถูกนำมาใช้เป็นชื่ออำเภอในที่สุด และแต่ละมุมเข้าตัวอำเภอจะมีรูปจระเข้อยู่