นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีของจีน ออกมายืนยันว่าในโอกาสร่วมเวทีหารือด้านเศรษฐกิจ ที่นครนิวยอร์ก ว่าไม่ว่าประธานธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ หลังการเลือกตั้งวันที่ 8 พ.ย. ที่จะถึงนี้จะเป็นใคร ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศก็ยังคงจะเดินหน้าพัฒนาต่อไป โดยการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ นั้นถือเป็นเรื่องกิจการภายใน ซึ่งเขาปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับผู้สมัครทั้งสอง การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หนนี้เป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งได้ออกมาขู่ที่จะตั้งกำแพงภาษีต่อสินค้าจีน และจะเจรจาการค้ากับจีนใหม่ ขณะที่ ตัวแทนผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต คือนางฮิลลารี คลินตัน อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง และอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศในรัฐบาลประธานาธิบดีบารัก โอบามา ก็ได้แสดงจุดยืนทางการค้าที่แตกต่างไปด้วยการไม่หนุนหลังกรอบความตกลงเขตการค้าเสรีทรานส์ แปซิฟิก พาร์ทเนอร์ชิพ หรือทีพีพี โดยผู้สมัครทั้งสองคน เคยให้ความเห็นต่อกรณีข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ ที่จีนมีกับอีกหลายประเทศในภูมิภาค ซึ่งท่าทีดังกล่าวอาจจะมีนัยยะต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลปักกิ่ง และรัฐบาลวอชิงตัน อย่างไรก็ตาม นายหลี่ ซึ่งขณะนี้กำลังเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ เน้นว่า การเลือกตั้งเป็นเรื่องภายในของสหรัฐฯ เขาคงไม่สามารถพูดอะไรได้มาก แต่ไม่ว่าใครจะชนะเลือกตั้ง เขาก็เชื่อว่าความสัมพันธ์จะพัฒนาต่อไปในทางที่ดียิ่งขึ้น โอกาสเดียวกัน นายหลี่ยังได้ตอบข้อวิจารณ์ของผู้นำธุรกิจเกี่ยวกับข้อจำกัดในการเข้าไปในตลาดจีนว่า จีนเปิดประตูต้อนรับการลงทุนจากต่างประเทศ และกำลังพัฒนากระบวนการต่างๆ ให้สะดวกยิ่งขึ้น