หนุ่มใหญ่ขอนแก่น ฉุนขอซื้อหมูป่าไม่ได้ บุกฟาร์มยิงกราดใส่คนงานแตกกระเจิง เจ้าของฟาร์มโอดตตอนนี้เดือดร้อนหนักคนงานไม่กล้ามาทำงานต้องยกเลิกออเดอร์หมูนับร้อยตัวสูญเงินนับแสนบาท วันที่ 11 ม.ค.65 เวลา 08.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆ ทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้มีการเผยแพร่ภาพที่บันทึกได้จากโทรศัพท์มือถือ ของคนงานในฟาร์มแห่งหนึ่งที่ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ซึ่งบันทึกเหตุการณ์ ชายสูงวัยในมือถืออาวุธปืนเดินแกว่งไปมาและพูดจาเสียงดังกับชายหนุ่มคนหนึ่งพร้อมกับชี้หน้าพูดคุยด้วยอารมณ์โมโห จากนั้นได้ใช้ปืนยิงข่มขู่ขณะที่ชายหนุ่มพยายามเอี้ยวตัวหลบคมกระสุนที่ถูกยิงออกมา โชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ฟาร์มเลี้ยงหมูแห่งหนึ่งในเขต อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น โดยพบกับนายวิทยา โพธิ์จันนา อายุ 48 ปี เจ้าของฟาร์ม ได้พาเดินดูจุดที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.64 เวลาประมาณ 22.00 น. โดยผู้ก่อเหตุคือนายไหม พรมเมืองขวา อายุ 67 ปี อดีตลูกจ้างในฟาร์ม โดยก่อนหน้านี้ทางฟาร์มได้ว่าจ้างให้นายไหม คุมงานในฟาร์ม แต่เมือเดือน มี.ค.64 ตนเอง ได้ลาออกจากงานประจำมาคุมธุรกิจธุรกิจฟาร์มหมู และนายไหม ได้ลาออกไป วันเกิดเหตุตนเองไม่อยู่ที่ฟาร์มมีเพียงลูกจ้างกำลังทำงานอยู่ 4 คน โดยนายไหม ได้ขับรถกระบะเข้ามาจอดภายในฟาร์มและเดินตรงมากลุ่มคนงานและต่อว่าว่าสั่งซื้อหมูป่า 1 ตัวทำไมไม่ได้ คนงานพยายามอธิบายว่าไม่ทราบเรื่องการสั่งซื้อแต่ก็กำลังเตรียมหมูให้ แต่นายไหม ก็ยังไม่ยอม และยังต่อว่าคนงานและพนักงานในฟาร์มอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังควักปืนยิงข่มขู่เข้ามาในฟาร์มจนกระสุนหมดแม็ก จากนั้นนายไหม ได้เดินมาที่รถเพื่อบรรจุกระสุนก่อนที่จะขับรถออกไป ซึ่งขณะเกิดเหตุโชคดีที่มีคนงานบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ จึงใช้เป็นหลักฐานในการเข้าแจ้งความเอาผิดที่ สภ.ภูเวียง หลังจากที่เข้าแจ้งความแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรียกผู้ก่อเหตุมาไกล่เกลี่ยโดยคนงานทั้ง 4 คนได้เรียกค่าเสียหายและค่าทำขวัญเป็นเงิน 300,000 บาท แต่นายไหม กลับไม่ยอม ตำรวจจึงเตรียมตั้งข้อหาและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ผ่านไปเกือบ 2 สัปดาห์ เรื่องยังเงียบ ขณะที่นายไหม ผู้ก่อเหตุยังใช้ชีวิตตามปกติ นายวิทยา กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ฟาร์มได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องคนงานทั้งหมดไม่กล้าเข้ามาทำงาน ทำให้คำสั่งซื้อหมูจากลูกค้านับ 100 ตัวต้องยกเลิกไปเพราะไม่มีลูกจ้างมาแปรรูปหมูเพื่อส่งขาย สูญเงินไปรวมกว่าหลายแสนบาท ขณะที่สาเหตุน่าจะเกิดจากที่นายไหม ต้องการซื้อหมูป่าในราคาถูกเพียงตัวละ 1,300 บาท และต้องการหมูไซค์ใหญ่เพื่อนำไปรับประทานช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งช่วงนั้นราคาปรับขึ้นสูงถึงตัวละ 2,500 บาท แต่เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็เกิดอารมณ์โมโห ใช้อาวุธปืนยิงกระหน่ำภายในฟาร์มขณะที่มีพนักงานทำงานอยู่ จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาด