สำนึกรักบ้านเกิดกับถิ่นกำเนิดช้างของชาวชัยภูมิ สัตว์คู่บ้านคู่เมืองคู่องค์เจ้าพ่อพญาแล ที่เป็นตำนาน สืบสานมาจนปัจจุบัน เกิดเป็นหมู่บ้านคนเลี้ยงช้าง ที่ในปัจจุบันนี้เรียกกันว่า "บ้านค่าย"
วันที่ 11 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนเส้นทางถนนทางหลวงหมายเลข 201 ถนนชัยภูมิ-สีคิ้ว ขาเข้าตัวเมือง บนพื้นที่ดินบ้านเลขที่ 999 หมู่ที่ 3 ตำบลกะฮาด อำเภอเนินสง่า จังหวัดชัยภูมิ โดยทางด้านมี ดร.สันชัย พรมสิทธิ์ เจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าวและเป็นหนึ่งในผู้เลี้ยงช้าง สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ที่วันนี้ตั้งใจปรับเปลี่ยนที่ดินแปลงนี้ให้กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดชัยภูมิ ที่นักท่องเที่ยวสามารถแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมและเลี้ยงอาหารช้าง ทำกิจกรรมร่วมกัน ระหว่างคนกับช้าง รวมไปถึงการสืบสานตำนานช้างคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดชัยภูมิ แห่งเมืองเจ้าพ่อพญาแล
โดยทุกวันที่ 9 มกราคม ของทุกปี กลุ่มผู้เลี้ยงช้างในจังหวัดชัยภูมิจะกลับมารวมตัวกันไม่ว่าจะโยกย้ายถิ่นฐานไปอยู่ในที่ใดในประเทศไทยจะต้องเดินทางกลับมาเพื่อกลับมาสักการะบูชา บวงสรวงองค์พ่อหมื่นแผ้ว ที่บ้านค่ายหมื่นแผ้ว อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ เพื่อเตรียมเข้าสู่พิธีการบวงสรวงองค์เจ้าพ่อพญาแล เป็นที่มาของการจัดงานเจ้าพ่อพญาแล ในช่วงวันที่ 12 มกราคม ของทุกปี ที่มีมาอย่างต่อเนื่องของชาวชัยภูมิ ซึ่งต้องยอมรับว่าหากไม่มีผู้สืบสานตำนานช้างเมืองชัยภูมิ เด็กรุ่นหลังอาจจะมีความผูกพันกับช้างเพียงแค่เป็นช้างแสนรู้เท่านั้น จึงเป็นที่มาของการนำช้างกลับบ้านจัดเป็นสถานที่เรียนรู้แห่งใหม่สร้างความผูกพันระหว่างคนกับช้างในสถานที่นี้ที่มีชื่อว่า "คชสารพญาแล"
ดร.สันชัย พรมสิทธิ์ กล่าวว่า คชสารพญาแล จุดเริ่มต้นของสถานที่แห่งนี้ เนื่องมาจากเมื่อช่วงน้ำท่วมใหญ่ปี 64 ที่ผ่านมา พบว่าในพื้นที่ตำบลบ้านค่าย อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ได้สถานที่บนที่ดินแปลงนี้ ที่ตั้งอยู่ในเขตตำบลกะฮาด อำเภอเนินสง่า พื้นที่ติดต่อกันระหว่างตำบลบ้านค่าย มีเพียงแม่น้ำชีที่กั้นเขตแดนเท่านั้น ผู้เลี้ยงช้างรวมถึงช้างทั้งหมดที่มี จึงได้มารวมตัวกันอยู่บนพื้นที่ดินแปลงนี้ ที่มีความสูง น้ำท่วมไม่ถึง จึงทำให้ผู้เลี้ยงช้างและช้าง ได้อาศัยอยู่รอดในช่วงภาวะน้ำท่วมใหญ่ปี 64 ที่ผ่านมา หลังจากพ้นช่วงอุทกภัย ก็พบว่าปัญหาของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ก็สร้างผลกระทบให้กับผู้เลี้ยงช้างเช่นกันจึงไม่สามารถนำช้างออกไปจากพื้นที่ได้ หลังจากมีคำสั่งเปิดประเทศเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 64 ปีที่ผ่านมา ตนเองจึงตัดสินใจว่าจะตั้งใจทำสถานที่แห่งนี้ให้เป็นศูนย์ คชสารพญาแล เพื่อเป็นการสืบสานตำนานช้างขององค์เจ้าพ่อพญาแลแห่งจังหวัดชัยภูมิ ให้เป็นสถานที่สำคัญด้านประวัติศาสตร์ รวมไปถึง แหล่งเรียนรู้และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดชัยภูมิ ด้วยสถานที่ตั้ง ที่สามารถเห็นได้เด่นชัด แม้กระทั่งผู้ที่ขับรถสัญจรผ่านไปมาบนถนนทางหลวงหมายเลข 201 ก็สามารถมองเข้ามาแล้วเห็นสถานที่เลี้ยงช้าง ได้อย่างง่ายดาย
จากจุดเริ่มต้นที่บริเวณด้านหน้าที่เปิดเป็นร้านกาแฟ ตามสโลแกน “#จิบกาแฟแลช้าง” โดยนักท่องเที่ยวสามารถแวะเข้ามาพักรถ ก่อนเดินทางต่อเข้าจังหวัดเพื่อกราบไหว้สักการะ ดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ขององค์เจ้าพ่อพญาแล ซึ่งอยู่ห่างไปเพียงแค่ 14 กิโลเมตรเท่านั้น รวมไปถึงการเยี่ยมชมช้าง อีกจำนวนหลายเชือก โดยกิจกรรมที่จัดเตรียมไว้ให้กับนักท่องเที่ยว มีทั้งการนั่งหลังช้างชมบรรยากาศท้องทุ่ง เดินชมทุ่งเรียบแม่น้ำชี บรรยากาศภาพช้างอาบน้ำที่หาชมได้ยาก รวมไปถึง ได้มีส่วนร่วมในการดูแลช้างจากการให้อาหาร และร่วมชมการแสดงช้างแสนรู้ ต้องบอกเลยว่า ช้างชัยภูมิ ความแสนรู้และความสามารถ ในระดับที่เดินทางไปโชว์การแสดงมาแล้วทั่วประเทศ วันนี้พร้อมที่จะกลับมาบริการ นักท่องเที่ยว รวมไปถึงการสร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวจังหวัดชัยภูมิ ปิดตำนานคำถามยอดฮิต ที่หลายคนเคยถามว่า “ช้างชัยภูมิอยู่ไหน” วันนี้สถานที่แห่งนี้ คชสารพญาแล พร้อมแล้วที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว ด้วยความยินดี และด้วยความจริงใจ
ดร.สันชัย พรมสิทธิ์ กล่าวว่า คชสารพญาแล จุดเริ่มต้นของสถานที่แห่งนี้ เนื่องมาจากเมื่อช่วงน้ำท่วมใหญ่ปี 64 ที่ผ่านมา พบว่าในพื้นที่ตำบลบ้านค่าย อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ได้สถานที่บนที่ดินแปลงนี้ ที่ตั้งอยู่ในเขตตำบลกะฮาด อำเภอเนินสง่า พื้นที่ติดต่อกันระหว่างตำบลบ้านค่าย มีเพียงแม่น้ำชีที่กั้นเขตแดนเท่านั้น ผู้เลี้ยงช้างรวมถึงช้างทั้งหมดที่มี จึงได้มารวมตัวกันอยู่บนพื้นที่ดินแปลงนี้ ที่มีความสูง น้ำท่วมไม่ถึง จึงทำให้ผู้เลี้ยงช้างและช้าง ได้อาศัยอยู่รอดในช่วงภาวะน้ำท่วมใหญ่ปี 64 ที่ผ่านมา หลังจากพ้นช่วงอุทกภัย ก็พบว่าปัญหาของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ก็สร้างผลกระทบให้กับผู้เลี้ยงช้างเช่นกันจึงไม่สามารถนำช้างออกไปจากพื้นที่ได้ หลังจากมีคำสั่งเปิดประเทศเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 64 ปีที่ผ่านมา ตนเองจึงตัดสินใจว่าจะตั้งใจทำสถานที่แห่งนี้ให้เป็นศูนย์ คชสารพญาแล เพื่อเป็นการสืบสานตำนานช้างขององค์เจ้าพ่อพญาแลแห่งจังหวัดชัยภูมิ ให้เป็นสถานที่สำคัญด้านประวัติศาสตร์ รวมไปถึง แหล่งเรียนรู้และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดชัยภูมิ ด้วยสถานที่ตั้ง ที่สามารถเห็นได้เด่นชัด แม้กระทั่งผู้ที่ขับรถสัญจรผ่านไปมาบนถนนทางหลวงหมายเลข 201 ก็สามารถมองเข้ามาแล้วเห็นสถานที่เลี้ยงช้าง ได้อย่างง่ายดาย
จากจุดเริ่มต้นที่บริเวณด้านหน้าที่เปิดเป็นร้านกาแฟ ตามสโลแกน “#จิบกาแฟแลช้าง” โดยนักท่องเที่ยวสามารถแวะเข้ามาพักรถ ก่อนเดินทางต่อเข้าจังหวัดเพื่อกราบไหว้สักการะ ดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ขององค์เจ้าพ่อพญาแล ซึ่งอยู่ห่างไปเพียงแค่ 14 กิโลเมตรเท่านั้น รวมไปถึงการเยี่ยมชมช้าง อีกจำนวนหลายเชือก โดยกิจกรรมที่จัดเตรียมไว้ให้กับนักท่องเที่ยว มีทั้งการนั่งหลังช้างชมบรรยากาศท้องทุ่ง เดินชมทุ่งเรียบแม่น้ำชี บรรยากาศภาพช้างอาบน้ำที่หาชมได้ยาก รวมไปถึง ได้มีส่วนร่วมในการดูแลช้างจากการให้อาหาร และร่วมชมการแสดงช้างแสนรู้ ต้องบอกเลยว่า ช้างชัยภูมิ ความแสนรู้และความสามารถ ในระดับที่เดินทางไปโชว์การแสดงมาแล้วทั่วประเทศ วันนี้พร้อมที่จะกลับมาบริการ นักท่องเที่ยว รวมไปถึงการสร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวจังหวัดชัยภูมิ ปิดตำนานคำถามยอดฮิต ที่หลายคนเคยถามว่า “ช้างชัยภูมิอยู่ไหน” วันนี้สถานที่แห่งนี้ คชสารพญาแล พร้อมแล้วที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว ด้วยความยินดี และด้วยความจริงใจ