สมาชิกสหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงบ้านอมพาย จำกัด มีเงิน ส่งลูกจบ ป.ตรี มีบ้าน มีชีวิตมั่นคง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่สะเรียง เดิมเป็นพื้นที่ดำเนินงานส่วนหนึ่งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย ต่อมาได้แยกพื้นที่ดำเนินงานออกมาตั้งเป็นศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่สะเรียง เมื่อปี พ.ศ. 2536 เนื่องจากพื้นที่รับผิดชอบของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย อยู่ห่างไกล และกว้างขวางครอบคลุมพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อ.แม่ลาน้อย และ อ.แม่สะเรียง พื้นที่ในส่วนของ อ.แม่สะเรียง จึงแยกศูนย์มาอยู่ที่บ้านอมพาย หมู่ที่ 11 ตำบลป่าแป๋ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน และจัดตั้งเป็นสหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงบ้านอมพาย จำกัด ขึ้นพร้อมพัฒนาและส่งเสริมเกษตรกรให้มีรายได้ สามารถพึ่งพาตนเองได้ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นายนิยม สุขทวีวุฒิพงศ์ ผู้จัดการสหกรณ์ฯ เปิดเผยว่า สหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงแม่อมพาย จำกัด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2558 โดยเริ่มแรกเกษตรกรในพื้นที่จะเป็นสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงแม่สะเรียง จำกัด แต่เนื่องจากสมาชิกที่มีแปลงเพาะปลูกและที่อยู่อาศัยที่อมพาย ซึ่งห่างไกลจากที่ตั้งของสหกรณ์แม่สะเรียง จำกัด จึงแยกมาจัดตั้งสหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงบ้านอมพาย จำกัด มีสมาชิกทั้งหมด 99 คน “ตอนแรกๆ ผลผลิตจะเยอะโครงการหลวงรับไม่หมดก็เลยให้สหกรณ์หาช่องทางการตลาด ไปติดต่อสหกรณ์อื่นๆ ส่วนหนึ่งส่งให้โรงพยาบาลที่ อ.แม่สะเรียง อ.แม่ลาน้อย อ.สบเมย จนถึง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ปีที่แล้วมีโอกาสไปศึกษาดูงานที่ศูนย์กระจายสินค้าการเกษตรภาคเหนือ หรือชุมนุมสหกรณ์เกษตรภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ และได้ทำสัญญาซื้อขายผักกัน ตอนนี้ส่งให้ชุมนุมฯ มีผัก 4 ชนิด คือเบบี้ฮ่องเต้ คะน้าฮ่องกง เบบี้ครอส และครอสสลัด โดยส่งทุกวันพุธ" นายนิยม สุขทวีวุฒิพงศ์ กล่าว ด้าน นายมะณี ศักดิ์ชัยปัญญา ประธานสหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงบ้านอมพาย จำกัด เผยว่า เมื่อก่อนเกษตรกรจะปลูกกะหล่ำ มะเขือเทศ รายได้ไม่แน่นอน บางปีราคาถูกก็ขาดทุน ต่อมาได้รับการสนับสนุนให้ปลูกแบบโรงเรือนปลอดสารเคมี ตอนแรกทำ 2 โรง ผลออกมาดี ไม่มีสารเคมี ร่างกายก็ดีกว่าเพราะไม่ต้องอยู่กับยาฆ่าแมลงมีตลาดรองรับผลผลิตปัจจุบันขยายโรงเรือนเป็น 9 โรง “ตอนแรกไม่มีสักบาทไปเอาเงินที่สหกรณ์ฯ มาก่อนเป็นทุนทำโรงเรือนโดยผ่อนจ่ายจากรายได้ของผัก ถ้าได้มา 100 บาท ก็ให้สหกรณ์หักไป 30 บาท จนกว่าจะหมด ทำมา 10 ปีแล้วความเป็นอยู่ดีขึ้น มีรายได้พอส่งลูกเรียน 4 คน จบปริญญาตรี ก็นำแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ทำตามกำลังและรายได้ไม่ขยายมาก และไม่ต้องไปบุกป่า รายได้ก็พออยู่ได้ ส่งลูกเรียน ผ่อนรถผ่อนบ้าน และมีเงินออม นับตั้งแต่เข้ามาเป็นสมาชิกสหกรณ์ชีวิตดีขึ้นมาก ถ้าไม่มีในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็คงไม่ได้มาทำโรงเรือนนี้ สมาชิกสหกรณ์ทุกคนดีขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดี เมื่อก่อนพ่อแม่ก็ทำไร่เลื่อนลอย ถางป่าไปเรื่อยๆ 7 ปีก็วนกลับมาที่เดิม ความเป็นอยู่ไม่ดีข้าวไม่พอกิน แต่ตอนนี้มีเงินสามารถส่งลูกเรียนสูงๆ ได้ ขอขอบคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ที่มาให้อาชีพดีๆ กับพวกเรา และดีใจที่รัชกาลที่ 10 ทรงสืบสานทำให้โครงการนี้ได้เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง” นายมะณี ศักดิ์ชัยปัญญา กล่าว ส่วน นายเอกบดี จันภักษานนท์ ผู้อำนวยการกลุ่มจัดตั้งและส่งเสริมสหกรณ์ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน เผยว่า จากที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จัดโครงการประกวดสหกรณ์โครงการหลวงดีเด่นประจำปี 2564 โดยสหกรณ์พื้นที่โครงการหลวง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ส่งเข้าประกวดอยู่ 2 แห่งคือสหกรณ์โครงการหลวงบ้านอมพาย จำกัด และสหกรณ์โครงการหลวงแม่สะเรียง จำกัด โดยสหกรณ์โครงการหลวงบ้านอมพายได้รับรางวัลที่ 2 เป็นสหกรณ์ฯ ที่มีการพัฒนาและสร้างแนวทางในการเพิ่มผลประโยชน์ให้แก่สมาชิกและชุมชนได้อย่างดีเยี่ยม โดยมีคณะกรรมการและสมาชิกที่มีความร่วมมือร่วมใจกัน คณะกรรมการที่มีความรู้ความสามารถ เป็นตัวหลักในการผลักดันให้สมาชิกทั้งหลายเกิดความเชื่อมั่น และศรัทธา มีส่วนร่วมมีแรงจูงใจเข้ามาร่วมกันในการส่งเสริมสนับสนุนการประกอบอาชีพของตนเองให้ได้ผลดี สามารถสร้างความเชื่อมั่นทำให้สหกรณ์ มีการพัฒนา และก็เจริญเติบโตไปได้อย่างดี แล้วก็สามารถสร้างให้เกิดผลประโยชน์แก่แก่สหกรณ์ สมาชิกและชุมชนได้ต่อไป ทั้งนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้พัฒนาสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวง ให้เป็นองค์กรของชุมชนเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนพื้นที่สูง รวมถึงเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเสริมสร้างความร่วมมือในการดำเนินธุรกิจร่วมกันระหว่างสหกรณ์กับมูลนิธิโครงการหลวง พร้อมทั้งสนับสนุนอุปกรณ์การผลิตและการตลาด และเงินทุนต่างๆ ให้กับสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวงได้นำไปดำเนินธุรกิจและรับซื้อผลผลิตการเกษตรของสมาชิก ซึ่งในแต่ละปีจะมีการจัดประกวดสหกรณ์และบุคคลดีเด่นในพื้นที่โครงการหลวงขึ้น เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวงและสมาชิก รวมถึงเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ที่มีส่วนร่วมในการแนะนำส่งเสริมสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวง เพื่อเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของสมาชิกสหกรณ์ให้มีสำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์ สุจริต มีความรู้ ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความเพียร รอบคอบ อดทน ปฏิบัติตนโดยมีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมและสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างพอเพียงสืบไป