โรงไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์ผาบ่อง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้า ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2565 นายพงศ์พันธ์ ชัยพฤกษ์ หัวหน้าแผนกโรงไฟฟ้าดีเซลแม่ฮ่องสอน ได้เปิดเผยว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดเดียวของประเทศไทย ที่ กฟผ. ยังไม่สามารถสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูงขนาด 115 Kv. ผ่านเข้าไปได้ ด้วยเหตุผลทางด้านการอนุรักษ์ป่าไม้ โดยกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผ่านระบบส่ง 115 kv และระบบจำหน่าย 22 Kv. ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร โดยมีแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ประกอบกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนแม่สะงาขนาดกำลังผลิต 8 MW โรงไฟฟ้าดีเซลแม่ฮ่องสอน ขนาดกำลังผลิต 4.4 MW โรงไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์ผาบ่อง ขนาดกำลังผลิต 0.504 MW และโรงไฟฟ้าเขื่อนผาบ่อง ขนาดกำลังการผลิต 0.8 MW
ในส่วนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยมีภารกิจเดินเครื่องเสริมระบบให้จังหวัดแม่ฮ่องสอน กรณีระบบส่ง 115 kv และระบบจำหน่าย 22 kv ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ชำรุด ซึ่งมีโรงไฟฟ้าที่รับปิดชอบประกอบด้วย
1. โรงไฟฟ้าดีเซลแม่ฮ่องสอน ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง 5.4 MW เริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าจ่ายให้กับจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งแต่ กันยายน 2536 ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว กระแสไฟฟ้ามีไม่เพียงพอ เนื่องมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าดีเซลแม่ฮ่องสอน ประกอบด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาด 1000 kw จำนาน 2 เครื่อง และ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาด 800 kw จำนวน 3 เครื่อง เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนที่เพิ่มขึ้นทุกปีได้
2. โรงไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์ผาบ่อง เป็นโครงการสาธิตระบบผลิตกระแสไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิต 0.504 MW โดยความร่วมมือของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ) ผลิตกระแสไฟฟ้าจ่ายให้กับจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งแต่ เมษายน 2547 เพื่อเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าในจังหวัดแม่ฮ่องสอน และสอดคล้องกับนโยบายการอนุรักษ์พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมของจังหวัด เพื่อศึกษาปัญหาทางด้านเทคนิค และผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม จากระบบผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า จากเซลล์แสงอาทิตย์ที่มีขนาดใหญ่ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อเป็นต้นแบบสำหรับศึกษาแนวทางที่จะนำไปสู่กระบวนการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย
ในอนาคต กฟผ. ยังมีแผนเพิ่มกำลังการผลิต โดยดำเนินการก่อสร้างโครงการพัฒนาโครงการนำร่องพัฒนาสมาร์กริดที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้า ให้กับจังหวัดแม่ฮ่องสอนอีกด้วย นอกจากความรับผิดชอบทางด้านพลังงานแล้ว กฟผ. ยังรับผิดชอบต่อชุมชน โดย มีกิจกรรม ( CSR) เช่น ออกหน่วยแพทย์ และ ทันตกรรมเคลื่อนที่ ออกหน่วยโครงการแว่นแก้ว มอบทุนการศึกษาและอุปกรณ์การกีฬา กิจกรรมต่างๆในชุมชน ทั้งทางด้านวัฒนธรรม และ สุขภาพ เพื่อสร้างความสุขให้กับสังคมและชุมชนอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2565 นายพงศ์พันธ์ ชัยพฤกษ์ หัวหน้าแผนกโรงไฟฟ้าดีเซลแม่ฮ่องสอน ได้เปิดเผยว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดเดียวของประเทศไทย ที่ กฟผ. ยังไม่สามารถสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูงขนาด 115 Kv. ผ่านเข้าไปได้ ด้วยเหตุผลทางด้านการอนุรักษ์ป่าไม้ โดยกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผ่านระบบส่ง 115 kv และระบบจำหน่าย 22 Kv. ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร โดยมีแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ประกอบกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนแม่สะงาขนาดกำลังผลิต 8 MW โรงไฟฟ้าดีเซลแม่ฮ่องสอน ขนาดกำลังผลิต 4.4 MW โรงไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์ผาบ่อง ขนาดกำลังผลิต 0.504 MW และโรงไฟฟ้าเขื่อนผาบ่อง ขนาดกำลังการผลิต 0.8 MW
ในส่วนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยมีภารกิจเดินเครื่องเสริมระบบให้จังหวัดแม่ฮ่องสอน กรณีระบบส่ง 115 kv และระบบจำหน่าย 22 kv ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ชำรุด ซึ่งมีโรงไฟฟ้าที่รับปิดชอบประกอบด้วย
1. โรงไฟฟ้าดีเซลแม่ฮ่องสอน ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง 5.4 MW เริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าจ่ายให้กับจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งแต่ กันยายน 2536 ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว กระแสไฟฟ้ามีไม่เพียงพอ เนื่องมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าดีเซลแม่ฮ่องสอน ประกอบด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาด 1000 kw จำนาน 2 เครื่อง และ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาด 800 kw จำนวน 3 เครื่อง เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนที่เพิ่มขึ้นทุกปีได้
2. โรงไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์ผาบ่อง เป็นโครงการสาธิตระบบผลิตกระแสไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิต 0.504 MW โดยความร่วมมือของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ) ผลิตกระแสไฟฟ้าจ่ายให้กับจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งแต่ เมษายน 2547 เพื่อเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าในจังหวัดแม่ฮ่องสอน และสอดคล้องกับนโยบายการอนุรักษ์พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมของจังหวัด เพื่อศึกษาปัญหาทางด้านเทคนิค และผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม จากระบบผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า จากเซลล์แสงอาทิตย์ที่มีขนาดใหญ่ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อเป็นต้นแบบสำหรับศึกษาแนวทางที่จะนำไปสู่กระบวนการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย
ในอนาคต กฟผ. ยังมีแผนเพิ่มกำลังการผลิต โดยดำเนินการก่อสร้างโครงการพัฒนาโครงการนำร่องพัฒนาสมาร์กริดที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้า ให้กับจังหวัดแม่ฮ่องสอนอีกด้วย นอกจากความรับผิดชอบทางด้านพลังงานแล้ว กฟผ. ยังรับผิดชอบต่อชุมชน โดย มีกิจกรรม ( CSR) เช่น ออกหน่วยแพทย์ และ ทันตกรรมเคลื่อนที่ ออกหน่วยโครงการแว่นแก้ว มอบทุนการศึกษาและอุปกรณ์การกีฬา กิจกรรมต่างๆในชุมชน ทั้งทางด้านวัฒนธรรม และ สุขภาพ เพื่อสร้างความสุขให้กับสังคมและชุมชนอย่างยั่งยืน