นางมาศวัลย์ ปิ่นสุวรรณ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม. กล่าวถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตถึงความคืบหน้าการรื้อถอนโรงแรมดิเอทัส บางกอก และอาคารเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ดิ เอทัส เรสซิเดนซ์ ในซอยร่วมฤดี เขตปทุมวัน ว่า การดำเนินการด้านคำสั่งทางปกครอง สำนักงานเขตปทุมวัน ได้ติดคำสั่งที่อาคารดังกล่าวให้ระงับการก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน เคลื่อนย้ายอาคาร คำสั่งมิให้บุคคลใดใช้ หรือเข้าไปในส่วนใดๆ ของอาคาร หรือบริเวณอาคาร และคำสั่งให้ดำเนินการแก้ไขและให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.63 โดยบริษัทเจ้าของอาคาร ได้ติดป้ายประกาศปิดทำการของทั้งสองอาคาร ซึ่งสำนักงานเขตฯ ได้เข้าไปตรวจสอบไม่พบบุคคลเข้าใช้อาคาร อย่างไรก็ตาม บริษัทเจ้าของอาคารได้ใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ไม่รับพิจารณาอุทธรณ์ สำนักงานเขตฯ จึงได้ติดคำสั่งให้รื้อถอนอาคารอีกครั้ง เมื่อวันที่ 21 ก.ย.64 ต่อมาศาลปกครองสูงสุด มีหนังสือแจ้งตอบกลับสำนักงานเขตฯ เมื่อวันที่ 26 ส.ค.64 ไม่เห็นด้วยที่สำนักงานเขตฯ ออกคำสั่งฉบับใหม่ สำนักงานเขตฯ จึงได้ออกหนังสือแจ้งออกคำสั่งเพิกถอนคำสั่งให้รื้อถอนอาคารฉบับใหม่และแจ้งให้บริษัทฯ รื้อถอนอาคารตามคำพิพากษาฯ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการต่อสัญญากับผู้ว่าจ้าง เพื่อรื้อถอนอาคารโรงแรมดิเอทัส บางกอก และอาคารเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ดิ เอทัส เรสซิเดนซ์ โดยมีเจ้าหน้าที่เทศกิจปฏิบัติงานร่วมกับนายตรวจฝ่ายโยธา พบว่าปฏิบัติตามคำสั่ง ไม่มีการฝ่าฝืนแต่อย่างใด
นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. กล่าวว่า การสั่งรื้อถอนอาคารโรงแรมดิเอทัส บางกอก และอาคารเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ดิ เอทัส เรสซิเดนซ์ จำกัด อยู่ในอำนาจของสำนักงานเขตปทุมวัน โดยสำนักการโยธา กทม. ได้รับการแต่งตั้งในการให้คำปรึกษาและสนับสนุนสำนักงานเขตปทุมวัน ตามคำสั่ง กทม.