บอร์ดภาพยนตร์ฯ ไฟเขียวตั้งอนุกรรมการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศผ่านสื่อบันเทิงในลักษณะ Soft Power ผลักดันความเป็นไทยสู่สากล เผยมาตรการผ่อนปรนผู้ผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศถ่ายทำในไทยแล้ว 135 เรื่อง สร้างรายได้กว่า 5,082 ล้านบาท นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม(วธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ที่ประชุมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการภาพยนตร์ฯ ได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศผ่านสื่อบันเทิงในลักษณะละมุน (Soft Power) โดยมีรมว.วธ.เป็นประธานอนุกรรมการ และมีผู้แทนหน่วยงาน สมาคมที่เกี่ยวข้อง และผู้ทรงคุณวุฒิด้านภาพยนตร์ฯ เป็นอนุกรรมการ เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพาณิชย์ สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ สมาคมนักเขียนบทละครโทรทัศน์ไทย เป็นต้น โดยคณะอนุกรรมการชุดนี้มีหน้าที่และอำนาจ เช่น ศึกษา วิเคราะห์ เสนอนโยบาย แผนและยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการสร้างภาพลักษณ์ประเทศผ่านสื่อบันเทิงในลักษณะอำนาจละมุน(soft power) เพื่อยกระดับให้ประเทศไทยเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ กำหนดมาตรการแนวทางและสนับสนุนการดำเนินงานสร้างความตระหนักในตราสินค้าของประเทศไทยให้สอดคล้องกับการรับรู้ของภูมิภาคต่างๆ และสนับสนุนให้มีการผลิตหรือร่วมผลิตสื่อบันเทิงบางประเภทกับภาครัฐ เอกชนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งกล่าวอีกว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแผนการดำเนินงานตามแผนบูรณาการแผนงานส่งเสริมและเผยแพร่ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ทั้งในและต่างประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ซึ่งวธ. กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะประสานงานสำนักงบประมาณเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการตามแผนบูรณาการ โดยร่วมมือกับกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ในนามทีมประเทศไทย (Content Thailand) จัดกิจกรรมในประเทศ 15 กิจกรรม เช่น งานประกาศรางวัลโทรทัศน์ทองคำ งานประกาศรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติสุพรรณหงส์ งานเทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพมหานคร และในต่างประเทศ 10 กิจกรรม อาทิ เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส งานแสดงสินค้าลิขสิทธิ์นานาชาติฮ่องกง เป็นต้น ซึ่งการจัดกิจกรรมมุ่งเน้นรูปแบบปกติ(On Site) ส่วนกิจกรรมรูปแบบออนไลน์ดำเนินการตามความเหมาะสม โดยพิจารณาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 “ที่ประชุมได้รับรายงานจากกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวฯ หลังจากที่รัฐบาลมีมาตรการผ่อนปรนให้กองถ่ายภาพยนตร์ โทรทัศน์ โฆษณาทำงานต่อไปได้ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2563 จนถึงต้นเดือนธันวาคม 2564 มีภาพยนตร์ต่างประเทศถ่ายทำในประเทศไทยทั้งหมด 135 เรื่อง สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 5,082 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้มีภาพยนตร์ที่มีคณะถ่ายทำเดินทางมาจากต่างประเทศ 42 เรื่อง สร้างรายได้กว่า 3,702 ล้านบาท โดยประเทศที่มีงบประมาณลงทุนสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อเมริกากว่า 1,924 ล้านบาท ออสเตรเลียกว่า 702 ล้านบาท และเขตบริหารพิเศษฮ่องกงกว่า 416 ล้านบาท” นายอิทธิพล รมว.วัฒนธรรม กล่าว