ไลฟ์สไตล์คลายเหนื่อย นายเทวพงศ์พันธ์ เมืองยม ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่สำคัญแทนที่จะมีความหลาบจำกลับมีแนวโน้มว่า “ไม่ว่าตัวจะอยู่นอกคุกหรือในคุก อิสรภาพในการค้ายาเสพติดก็ยังเหมือนเดิม” เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงต้องเข้มงวด และมีบทบาทที่เด็ดขาด ก็คือ “หน่วยปฏิบัติการพิเศษชุดดำ” ที่ต้องทำงานอย่างเฉียบขาด ภายใต้ความรับผิดชอบของ “โก้ พญายม” นั่นเอง”ไลฟ์สไตล์คลายเหนื่อยสัปดาห์นี้ขอพาไปสัมผัสชีวิต นายเทวพงศ์พันธ์ เมืองยม ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เด็กกรุงศรีอยุธยาที่ไม่สิ้นคนดี ลูกชายอดีตเป็นนักมวยเก่า “ณัฐ เมืองยม”ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนก้าวสู่รั้วของชาติ อดีตทหารรักษาพระองค์กองพันทหารราบที่ 11 พัน 2 รอ. แล้วโอนมารับราชการกรมราชทัณฑ์ ก้าวสู้ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผมเกิดที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรของคุณพ่อผิน เมืองยม อดีตเป็นนักมวยเก่า ใช้ชื่อว่า “ณัฐ เมืองยม” กับคุณแม่สำอางค์ เมืองยม ประธานชุมชนหมู่บ้าน ตำบลไผ่ลิง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จบชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนประตูชัย ชั้นมัธยมที่โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย ปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร ปริญญาโท สาขาบริหารองค์กร ที่มหาวิทยาลัยเกริก เส้นทางชีวิตการทำงาน เข้าศึกษานักเรียนนายสิบที่ค่ายธนะรัชต์ ปราณบุรี และเข้ารับราชการทหารครั้งแรกที่ กรมทหาราบที่ 11 พัน 2 รอ. จากนั้นสอบแข่งขันได้โอนย้ายในตำแหน่งนักทัณฑวิทยา 3 สังกัดกรมราชทัณฑ์ โดยได้ปฏิบัติหน้าที่ประจำงานเลขาฯ นายไกวัล สากิยลักษณ์ อดีตรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นางอุไร คงขุน นางวชิรา เศวตนันทน์ อดีตนักทัณฑวิทยา 9 ชช.กรมราชทัณฑ์ ตามลำดับ และได้ทำงานติดตาม นายสุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ในขณะนั้น จนกระทั่งได้รับความไว้วางใจให้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งหัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษกรมราชทัณฑ์ เพื่อปฏิบัติงานตามนโยบาย 5 ก้าวย่างแห่งการเปลี่ยนแปลงราชทัณฑ์ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา) คือ ก้าวที่ 1 การปราบปรามยาเสพติดโทรศัพท์มือถือสิ่งของต้องห้าม ก้าวที่ 2 การจัดระเบียบภายในเรือนจำ ก้าวที่ 3 การฝึกวินัยผู้ต้องขัง ก้าวที่ 4 การพัฒนาจิตใจด้วยหลักสูตรสัคคสาสมาธิ และก้าวที่ 5 การสร้างความยอมรับจากสังคม โดยชุดปฏิบัติการพิเศษกรมราชทัณฑ์ ที่มีนายเทวพงศ์พันธ์ เมืองยม เป็นหัวหน้าชุด ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบในก้าวที่ 1 คือ การปราบปรามยาเสพติด โทรศัพท์มือถือและสิ่งของต้องห้ามภายในเรือนจำ จำนวน 143 แห่งทั่วประเทศ จนได้รับฉายาว่า “โก้ พญายม” หน่วยปฏิบัติการพิเศษคอมมานโดชุดดำของกรมราชทัณฑ์ ในสมัยนั้น มีบทบาทหน้าที่รับผิดชอบงานเกี่ยวกับความมั่นคง ดำเนินการจู่โจมตรวจค้นเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ ป้องกันปราบปรามยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย สนับสนุนช่วยเหลือเรือนจำกรณีมีเหตุจลาจล ติดตามจับกุมนักโทษหนีการจับกุม ขนย้ายและทำหน้าที่อารักขาบุคคลสำคัญที่เข้ามาทำกิจกรรมในเรือนจำ โดยปฏิบัติตามภารกิจที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย โดยมีพลเอกทิวะพร ชะนะพะเนาว์ คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายเรืองศักดิ์ สุวารี รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ (ปัจจุบันดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) เป็น ผบ.ควบคุมเหตุการณ์ หลังจากนั้นได้ย้ายไปฏิบัติหน้าที่ที่เรือนจำกลางคลองเปรม ในตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนควบคุมผู้ต้องขัง 2 ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาผู้ต้องขัง ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการพิเศษประจำเขต 10 ตามลำดับ ผลงานที่ประจักษ์จึงได้รับความไว้วางใจให้ปฏิบัติหน้าที่ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอ ภูเขียว ปัจจุบันได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กรมราชทัณฑ์ เป็นหน่วยงานของกระทรวงยุติธรรม มีหน้าที่ดูแลเรือนจำและนักโทษคดีต่าง ๆ กรมราชทัณฑ์ หนึ่งในคำเล่าขาน “แดนสนธยา” มีเรื่องราวหลากหลายของพฤติกรรมผู้ต้องขัง ซึ่งรวมผู้กระทำความผิดสารพัด ตั้งแต่อาชญกรรมธรรมดาถึงอาชญากรรมอุกฉกรรจ์ ภัยร้ายของแผ่นดิน ทั้งปล้น ฆ่าข่มขืน คดีเศรษฐกิจ และนักโทษประหารชีวิต ภาระที่กรมราชทัณฑ์ แบบรับนักโทษอยู่ทุกวันนี้ มีจำนวนมากมายมหาศาล กว่า 240,000 คน จึงเป็นปัญหาที่ต้องเอาภาระมาเป็นพลัง โดยฝึกอาชีพเป็นแรงงานฝีมือ ตามตลาดแรงงานได้บางส่วน เพื่อเป็นการคืนคนดีสู่สังคมและป้องกันไม่ให้เขาเหล่านั้นกลับไปอยู่ในสังคมแวดล้อมเดิม ถึงกระนั้น ก็ยังไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง ปัญหาผู้มีอิทธิพลขาใหญ่ยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายในเรือนจำ นับวันขยายตัวมากขึ้น การแก้ปัญหาจึงเป็นสิ่งยากยิ่ง แม้ย้ายผู้ต้องขังคดีสำคัญไปควบคุมแดนความมั่นคงสูง Super Max ของเรือนจำกลางเขาบิน ราชบุรี แต่ก็ยังมีการพัฒนา ดิ้นรนรูปแบบการฝ่าฝืนระเบียบอยู่เป็นประจำ เครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำนับวันขยายตัวมากขึ้น เพราะบรรดานักโทษคดียาเสพติด มาสุมหัวอยู่รวมกันจึงเป็นเครือข่ายใหญ่ ยากต่อการควบคุม ดังนั้น กระทรวงยุติธรรม ยุค “บิ๊กต๊อก” พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จึงจำเป็นต้องตั้งธงกวาดล้างให้หมดไปอย่างเด็ดขาดโดยเร็ว เพราะเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกวันนี้พัฒนาขึ้นไปมาก จึงต้องตัดไฟแต่ต้นลมให้เด็ดขาด ชื่อของหน่วย “จู่โจมปฏิบัติการพิเศษ”จึงโดดเด่นขึ้น หน่วยจู่โจมคอมมานโดชุดดำ เป็นชุดปฏิบัติการลับของกรมราชทัณฑ์ ที่มีภารกิจตะลุยกวาดล้าง สิ่ง ผิดกฎหมาย และทลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดอย่างได้ผล เกิดผลงาน นำไปสู่การกวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติดนอกคุกต่อเนื่อง ตามที่สื่อมวลชนนำเสนอ กรมราชทัณฑ์มีภารกิจ และเป้าหมายคือการอบรม แก้ไขผู้กระทำความผิดและเน้นเรื่องการป้องกันเหตุภัยต่างๆ ในเรือนจำป้องกันไม่ให้นักโทษก่อการร้ายในคุก “หน่วยราชทัณฑ์พิเศษหรือคอมมานโดจู่โจมชุดดำ” จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับภารกิจสำคัญของราชทัณฑ์ โดยมี “นายเทวพงษ์พันธ์ เมืองยม” หรือ “โก้ พญายม” เป็นผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งการปฏิบัติงานหน่วยพิฆาตเคลื่อนที่เร็วชุดนี้ จึงเป็นที่กล่าวขวัญกันทั่วในหมู่ชาวคุก เพราะสร้างผลงานมากมายเป็นที่ชื่นชมของผู้บังคับบัญชาอยู่เสมอเพราะทุกคนมีระเบียบวินัยเข้มข้นทำงานเข้าเป้าหมายเนื่องจากทุกคนในหน่วยล้วนมาจากการคัดกรอง บ้างก็โอนย้ายมาจากทหารพลร่มและตำรวจ ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรสำคัญ ตลอดจนมีประสบการณ์มีความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธและจู่โจม หน่วยงานนี้ทุกคนจึงต้องทำงานเสี่ยงชีวิตแข่งกับเวลา สำหรับตัวตนของ “โก้ พญายม” ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการชุดดำ อดีตเป็นทหารรักษาพระองค์กองพันทหารราบที่ 11 พัน 2 รอ. แล้วโอนมารับราชการกรมราชทัณฑ์ ปฏิบัติหน้าที่พิเศษร่วมกับทหารตำรวจจู่โจมปราบปรามยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมายในเรือนจำทั่วประเทศไทย ตามคำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ โดยสามารถขอกำลังสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ บทบาทหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษคอมมานโดชุดดำของกรมราชทัณฑ์ ที่มี “โก้ พยายม” เป็นหัวหน้าจึงเลื่องลือชื่อสะท้านวงการ รับผิดชอบงานเกี่ยวกับความมั่นคงดำเนินการจู่โจมตรวจค้นเรือนจำและทัณฑสถาน ป้องกันปราบปรามยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย สนับสนุนช่วยเหลือเรือนจำกรณีมีเหตุจลาจล ติดตามจับกุมนักโทษหนีการจับกุม ขนย้ายและทำหน้าที่อารักขาบุคคลสำคัญ ที่เข้ามาทำกิจกรรมในเรือนจำโดยปฏิบัติตามภารกิจที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายสร้างผลงานออกมาเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้ง ประสบการณ์หน้าที่การทำงานผ่านการอบรม หลักสูตรสำคัญมากมาย เช่น ฝึกสอนและทบทวนยุทธวิธีให้เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ทั่วประเทศมีหน้าที่จัดกองเกียรติยศต้อนรับบุคคลสำคัญ รักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด อบรมพัศดีรุ่น 44 อบรมหลักสูตร ผกก. ตร รุ่น 95 รับผิดชอบการดำเนินการขนย้ายผู้ร้ายคดีสำคัญ และระงับเหตุร้ายการก่อจลาจลของผู้ต้องขังในเรือนจำเพียงระยะต้นปีที่ผ่านมา หน่วยปฏิบัติการจู่โจมพิเศษได้สนธิกำลังบุกตะลุยตรวจค้นเรือนจำต่างๆทั่วประเทศ ได้สิ่ง ผิดกฎหมายมากมาย สร้างความสั่นสะท้านให้กับผู้รับผิดชอบในเรือนจำต่าง ๆ ไม่น้อย การจู่โจมจับกุมมีมาตรการเด็ดขาดมากขึ้น ส่งผลให้ผู้บัญชาการเรือนจำ ที่บกพร่องต่อหน้าที่ ต้องสำรวจตัวเองเป็นทิวแถว วันนี้หน่วยคอมมานโดชุดดำของกรมราชทัณฑ์ จึงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นที่โจษขานกันมากยิ่งขึ้น กระนั้นก็ยังมีการปฏิบัติการลับจู่โจมตรวจค้นกันอย่างต่อเนื่อง เพราะเครือข่ายค้ายาเสพติด เริ่มกลายพันธุ์จากวิธีเดิม ๆ ที่เคยกระทำความผิดและถูกจองจำ ในเรือนจำ กลับเป็นศูนย์กลางซื้อขายและรับส่งยาเสพติดไปแล้ว ด้วยเทคโนโลยีแค่โทรศัพท์มือถือที่สั่งการ แม้กรมราชทัณฑ์จะพยายามล้างคุกให้สะอาดหมดจด และมุ่งแก้ไขปัญหามาโดยตลอด แต่ยากยิ่งที่จะกำจัดเมล็ดพันธุ์ชั่วให้หมดสิ้นไปได้ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดหลายราย เมื่อถูกต้อนให้จนมุม ซัดทอดถึงขาใหญ่ผู้สั่งการในคุก แต่ก็ยากยิ่งที่จะแกะรอยตามหาตัวบุคคลที่ถูกกล่าวอ้างได้ เพราะมีผู้ที่ขยันโม่แป้งตลอดเวลา ภักดี วีระรัตน์