เรียกว่าเป็นเถ้าแก่น้อยได้ตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษา กับธุรกิจพัฒนาสายพันธุ์หอยเชอรี่สีทอง นางสาวปัทมวรรณ วงษ์จันทร์ นักศึกษาชั้น ปวส.1 สาขาวิชาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ แผนกวิชาประมง วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุดรธานี เล่าว่า หอยเชอรี่สีทองเกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์โดยการผสมถึง 4 รุ่น จนได้เป็นหอยเชอรี่สีทองที่มีสายเลือดนิ่งไม่ข้ามพันธุ์ มีลักษณะที่ดีตามที่ต้องการ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ต้องการของตลาด เพราะเป็นหอยสวยงามที่มีเปลือกและเนื้อสีเหลืองทอง เลี้ยงง่ายอดทนต่อสภาพแวดล้อม มีการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว (โดยหอยสีทองอายุ 3 เดือน สามารถจำหน่ายเพื่อบริโภคได้) หอยเชอรี่สีทองจะมีเนื้อที่มีรสชาติหวาน กรอบ มัน คล้ายกับปลาหมึกทะเล ซึ่งแตกต่างจากหอยเชอรี่ทั่วไป หรือเรียกอีกชื่อว่า หอยเป๋าฮื้อน้ำจืด โดยเป็นหอยน้ำจืดพวกหอยฝาเดียว มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ มีลักษณะคล้ายหอยโข่ง แต่เปลือกมีสีอ่อน คือ มีสีเขียวเข้มปนดำผสมกับแถบสีจางๆ พาดตามความยาวเปลือก บางตัวมีสีเหลืองปนน้ำตาล ซึ่งหอยเชอรี่มีอยู่ทั่วทุกภาคในประเทศไทย ปัทมวรรณ ได้แนะนำวิธีเลี้ยงหอยสีทอง เลี้ยงแล้วรวยว่า เริ่มจากเตรียมบ่อสำหรับพ่อแม่พันธุ์โดยใช้น้ำสูง 10 – 15 ซม. นำพืชน้ำพวกจอกแหนและผักตบชวาลงในบ่อ ปล่อยพ่อแม่พันธุ์หอยโดยใช้พ่อแม่พันธุ์อายุ 2 – 4 เดือนขึ้นไปปล่อยอัตราพ่อพันธุ์ 1 ตัวต่อแม่พันธุ์ 2 ตัว จำนวน 15 ตัวต่อตารางเมตร จากนั้นเก็บไข่หอยที่มีอายุ 3 วัน นำมาพักในภาชนะที่เตรียมไว้ 2 – 3 วัน หอยจะฟักเป็นตัว นำลูกหอยมาปล่อยอนุบาลยังบ่ออนุบาล และ เมื่อลูกหอยอายุประมาณ 20 วัน ก็จะเริ่มให้อาหาร คือ แหนแดง จอก แหนเป็ด ประมาณ 500 กรัมต่อบ่อ และอาหารเม็ดเล็กที่ให้สำหรับปลาดุก 1 % ต่อจำนวนของหอยในบ่อ ทั้งนี้ ควรให้อาหารวันละ 1 ครั้งทุกวันในช่วงเวลาเย็น โดยลูกหอยอายุ 40 – 60 วัน เริ่มคัดขนาดเพื่อจำหน่ายได้ ทั้งนี้ หอยสีทอง เลี้ยงแล้วรวย อายุ 1 เดือน ราคาตัวละ 5 บาท อายุ 2 เดือน ราคาตัวละ 10 บาท และพ่อแม่พันธุ์หอย ราคาตัวละ 20 บาท มีบริการจัดส่งทั่วประเทศ ค่าส่งเริ่มต้นที่ 50 บาท สนใจติดต่อได้ที่ Facebook : หอยสีทอง..เลี้ยงแล้วรวย Line ID : 0845733618 หรือ โทร : 0887937282