ปี 2564 ที่กำลังจะผ่านไปนั้น เรียกได้ว่าประเทศไทยต้องเผชิญกับวิกฤติหนักหนาสาหัส ทั้งภัยจากโควิด ผลกระทบเศรษฐกิจ และความปั่นป่วนทางการเมือง เมื่อจะก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ 2564 เป็น 2565 จากปีฉลูสู่ปีเสือ ทิศทางจะเป็นอย่างไร ตามตำราโหราศาสตร์พยากรณ์เอาไว้ให้เตรียมรับมือและแก้ไข “สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์” สัมภาษณ์พิเศษ อ.ดร.ภิญโญ พงษ์เจริญ นายกสมาคมโหรนานาชาติ ถึงดวงเมืองปี 2565 ที่จะมีอิทธิพลต่อด้านต่างๆ ที่น่าสนใจดังนี้
- ดวงเมืองปี 2565 จะเป็นอย่างไร โควิดจะยังรุนแรงหรือไม่
ดวงเมืองปี 2565 สถานการณ์โควิดยังน่าห่วง เหตุผลคือมีดาวที่เกี่ยวกับโรคระบาดหลายดวงซึ่งยังสัมพันธ์กับดวงเมือง โดยเฉพาะดาวมฤตยูตอนนี้ยังโคจรอยู่ตรงราศีเมษ จะย้ายราศีวันที่ 7 กรกฎาคม 2565 ไปอยู่ตรงราศีพฤษภถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2565 แต่จะถอยหลังกลับเข้ามาตรงราศีเมษอีกครั้งหนึ่ง เพราะฉะนั้นลีลาของดวงดาวที่โคจรถอยหลังและข้ามราศี แทนที่จะไปแล้วไปเลย ฉะนั้นสิ่งที่เคยเป็นจะหวนคืนมาอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาวเคราะห์อีกดวงหนึ่งคือ ดาวราหูที่ตอนนี้อยู่ตรงราศีพฤษภถึงวันที่ 30 มีนาคม 2565 จะยกจากราศีพฤษภเข้าสู่ราศีเมษทับลัคนาเมือง ทับอาทิตย์ดวงเมือง ฉะนั้นจะประมาทไม่ได้ อย่างไรก็ตามเภทภัยต่างๆเราคงไม่มองเฉพาะโควิดอย่างเดียว แต่มองไปถึงเภทภัยอย่างอื่นด้วย ซึ่งในอดีตวัฏฏะ(ความวน ,การหมุน, การเวียนไป)ราหูอยู่ตรงนี้คือ ปี 2547 ซึ่งปีนั้นเกิดภัยพิบัติสึนามิ เพราะฉะนั้น อาจจะมีภัยหลายๆอย่าง ภัยจากโรคระบาด ภัยธรรมชาติต่างๆ จึงต้องเตรียมพร้อม โหราศาสตร์มีไว้ใช้เตือนภัย เพื่อให้พร้อมที่จะรับมือ เผชิญเหตุการณ์ทั้งฝ่ายดีและฝ่ายที่ไม่ดีในอนาคต
-มีความคาดหวังว่าปีหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลง
จะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เนื่องจากดาวเสาร์ ขณะนี้โคจรอยู่ตรงราศีมังกร ภพที่ 10 (กัมมะ)ของดวงเมืองหมายถึง คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. การบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งในอดีตเคยเกิดเหตุการณ์สำคัญมากมาย โดยพระเสาร์มีวงรอบการโคจร 1 ราศีใช้เวลา 2 ปีครึ่ง 12 ราศีเท่ากับเวลา 30 ปี จะศึกษาอิทธิพลของดาวเสาร์ต้องเอา 30 ลบกับปี 2565 จะไปตรงกับปี 2535 เกิดจราจลใจกลางพระนครเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ และถ้าเอา 30 ลบ 2535 จะไปพบกับปี 2505 ปีนั้นอยู่ในสมัยของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ มีการสร้างกองทัพปลดแอกประชาชนเข้าป่า และเกิดการต่อต้านรัฐบาลเผด็จการความรุนแรงเริ่มขึ้นในปี 2505 พอปี 2506 จอมพลสฤษดิ์ถึงแก่อนิจกรรม มีการเปลี่ยนแปลงอำนาจถ่ายไปที่จอมพลถนอม กิตติขจร พล.อ.ประภาส จารุเสถียร ถ้าเอา 30 ลบกับ 2505 อีกรอบจะไปพบปี 2475 เกิดการปฏิวัติสยาม เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย ตามมาด้วยกบฏบวรเดช และการสละราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ย้อนไปอีกรอบ 30 ลบ 2475 ก็จะไปพบปี 2445 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีการปฏิรูปรูปแบบการปกครองจำกัดอิทธิพลของหัวเมืองต่างๆ จึงเกิดกบฏทุกภาค เพราะฉะนั้นเหตุการณ์ในอดีตสามารถนำมาใช้พยากรณ์ ปัจจุบันและอนาคตได้
“ในทางโหราศาสตร์ เหตุการณ์ทางการเมืองในการย้อนวัฏฏะของดวงดาวเป็นเครื่องเตือนรัฐบาล ผู้ใช้อำนาจปกครองว่า ในอดีตวงรอบแบบนี้มันเคยมีเหตุการณ์แบบนี้ จะแก้ไขและรับมือกับเหตุการณ์อย่างไร ทั้งนี้ดาวเสาร์อยู่ราศีมังกร จะยังอยู่ต่อไปจนถึงวันที่ 1 มีนาคม 2566 จากคำพยากรณ์การเปลี่ยนแปลงน่าจะเกิดในปี 2565 เพราะปี 2566 มันอยู่ปลายราศีมากแล้ว”
อย่างไรก็ตาม ดาวเสาร์อยู่ตรงนี้มีทั้งให้คุณและให้โทษ เพราะดาวเสาร์หมายถึงผู้ปกครอง ได้มาตรฐานเป็นเกษตร แปลว่ามีความมั่นคง อุดมสมบูรณ์ เมื่อดาวเสาร์อยู่ตรงนี้มาเป็นเวลา 2 ปีครึ่ง จะเห็นว่า ครม.ก็อยู่ได้ แต่ในปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2565ถึงวันที่ 21เมษายน 2566 พระเสาร์จะเปลี่ยน เป็นกาลกิณี แปลว่าความยุ่งยาก เสียหาย วุ่นวาย และจะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงภายใต้ราษีมังกร ภายใต้ภพที่ 10 หมายถึงครม. ถ้าพยากรณ์ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงตามอิทธิพลของดาวเสาร์
“ปี 2565 ไม่ใช่ธรรมดา คือดาวเสาร์โคจรอยู่ตรงราศีมังกร ในภพที่ 10 ของดวงเมืองมีดาวมฤตยูกับดาวราหู ยังทับลัคนาดวงเมือง ทับอาทิตย์ดวงเมืองจะเห็นว่าดาวบาปพระเคราะห์เบียดดวงเมือง แล้วดาวอังคารปีหน้าก็โคจรวิปริตถอยหลังในเรือนการสื่อสาร และเรือนเศรษฐกิจ การเงินและการคลังด้วย เพราะฉะนั้นบาปพระเคราะห์ก็จะช่วยกันประดังย่ำยีดวงเมือง”
แต่ในทางโหราศาสตร์ต้องดูดาวที่คุ้มครองชะตาบ้านชะตาเมือง ปกติจะดูดาวพฤหัสบดี ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 ทรงให้โหรวางพระฤกษ์ไว้ค่อนข้างเข้มแข็ง โดยวางดาวพฤหัสไว้ตรงราศีธนู 10 องศา 35 ลิปดา พฤหัสเป็นเกษตรแปลว่ามั่นคง ในทางโหรถือว่าเป็นการวางขั้นเอกอุ เพราะฉะนั้นดวงเดิมพลังพระพฤหัสดีมาก ทำให้อยู่มาได้ 240 ปีแล้ว ทั้งนี้ในปี 2565 ดาวพฤหัสจะโคจรอยู่ 2 ราศี คือช่วงที่อยู่ตรงราศีกุมภ์ กับช่วงที่อยู่ตรงราศีมีน ช่วงที่อยู่ราศีกุมภ์สถิตถึงวันที่ 8 เมษายน 2565 เป็นภพที่ 11 หรือภพลาภะ แปลว่ารายได้ ผลประโยชน์ มิตรผู้ให้ความช่วยเหลือ เพราะฉะนั้นให้ประโยชน์ ต่อดวงเมือง คุ้มชะตาบ้านชะตาเมืองได้ แต่จะคุ้มได้เต็มที่ถึงวันที่ 8 เมษายน ปี 2565 เท่านั้น หลังจากวันที่ 8เมษายน ดาวพฤหัสหัสจะโคจรเข้าราศีมีนถึงวันที่ 19 เมษายน 2565 ตรงนี้เป็นปัญหา แม้จะเป็นเกษตร หมายถึงความมั่นคง เป็นปึกแผ่น ถือว่าได้มาตรฐานที่ดี แต่ภพที่ไปสถิตโคจรผ่านภพที่ 12 เรียกว่า วินาศ แปลว่าเสียหาย วิบัติ ปกปิดซ่อนเร้น เพราะฉะนั้นดาวพฤหัสจะไม่คุ้มชะตาเมืองหลังวันที่ 8 เมษายน จึงต้องระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้วงเวลาที่ดาวอังคารทำมุมสัมพันธ์มีอยู่ช่วงต้นปี ดาวอังคารจรไปกุมดาวเสาร์ ตรงราศีมังกร ซึ่งดาวอังคารกับดาวเสาร์ ถือว่าเป็นดาวอุบัติเหตุ ดาวผ่าตัด ดาวแตกหัก เพราะฉนั้นต้องระมัดระวังในห้วงเวลาตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565-วันที่ 7 เมษายน ปี 2565 อาจจะเกิดอุบุตัเหตุเภทภัยอะไรต่างๆ อีกช่วงหนึ่ง 26 มิถุนายน 2565 -9 สิงหาคม 2565 ดาวอังคารไปกุมทั้งดาวราหู ทั้งดาวมฤตยู ดาวบาปพระเคราะห์อยูในแกนราศีและในภพที่สำคัญๆ และดาวอังคารปลายปีก็เกิดถอยหลังอีก
-เรื่องการเมืองปีหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงถ้าดูจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ รัฐบาลจะชิงปรับครม. จะสามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงสถานการณ์จากสิ่งที่ต้องเผชิญได้หรือไม่
การปรับ ครม.ที่จริงทำให้สถานการณ์คลี่คลายไปได้เล็กน้อย แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ดาวเสาร์อยู่ตรงนี้มันเป็นเรื่องใหญ่ เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนแปลง รัฐบาลก็ต้องทนอยู่ เพราะดาวเสาร์มันได้มาตรฐานเป็นเกษตร ก็ตั้งใจจะอยู่ให้ครบเทอมครบวาระใน ปี 2566 หรือไม่ก็ยุบสภาฯ เพราะฉะนั้นการยุบสภาฯอาจจะถูกหยิบมาใช้ เพราะเป็นอำนาจนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว ฉะนั้น เป็นการเลือกวิธีในการแก้ไข แต่สิ่งที่น่าห่วงอย่างหนึ่งก็คือ จะเห็นว่าดาวบาปพระเคราะห์ 4 ดวง ดาวเสาร์ อยู่ภพที่ 10 เล็งดวงจันทร์ไปเชื่อมโยงกับประชาชนกับฝ่ายค้าน และจิตใจอารมณ์ความรู้สึกของคน ส่วนดาวมฤตยู และราหูยกเข้าสู่ราศีเมษ เป็นราศีธาตุไฟ เมื่อดูวิถีของดาวอังคารกับดาวอาทิตย์ เพราะฉะนั้นในประวัติศาสตร์ไทย ก็เกิดความรุนแรงขึ้นอย่างที่กล่าวมาแล้ว แต่ในประวัติศาสตร์โลก ภาพของดาวมันใกล้เคียงกับตอนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ดาวบาปพระเคราะห์ตรึงทั้ง 4 มุม แต่คราวนี้ตรึงราศีเมษธาตุไฟ ราศีเมษธาตุดิน ดาวมฤตยูเข้าสู่เรือนการเงิน ฉะนั้นรูปแบบการต่อสู้แข่งขันน่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้น พยากรณ์ว่าจะเกิดสงครามทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การแย่งชิงผลประโยชน์ แย่งชิงทรัพยากร
-อยากให้ลงลึกเรื่องเศรษฐกิจปี 2565
เรือนเศรษฐกิจตั้งอยู่ตรงราศีพฤษภ มีเทพพระเคราะห์คือราหู เป็นเจ้าเรือนชะตาภพที่ 11 (ลาภะ) เป็นเจ้าเรือนชะตาที่ดี โคจรอยู่วนเจ้าเรือนชะตาที่ 2 คือ กดุมภะ มีช่องทางในการแสวงหาลาภได้ หาเงินมาใช้ได้ แต่ราหูอยู่ตรงราศีพฤษภ เค้าเรียกว่า “ราหูค้นทรัพย์” ลีลาการค้นอาจจะเข้มงวด ก้าวร้าว แล้วราหูค้นทรัพย์ค้นอยู่นานตั้งแต่ปี 2563 เดือนกันยายนจนถึงวันที่ 30 มีนาคม 2565 ราหูค้นทรัพย์และทำมุมกับดวงจันทร์เป็นดาวคู่หนี้สิน จะเห็นว่า ทั้งภาครัฐทั้งเอกชน เป็นหนี้เป็นสินต้องกู้ยืม ออกพ.ร.ก.กู้เงินหลายครั้ง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย ดวงโลกก็อยู่ตรงราศีเมษ ราหูค้นทรัพย์ทั้งโลก ราหูจะย้ายราศีหลังวันที่ 30 มีนาคม 2565 ราศีย้ายเข้าราศีพฤษภทับลัคนาเมือง ไปทับตนุเศษในดวงเมือง การทำมาหาได้ ก็ยังมี แต่จะเกิดปัญหาต่างๆหลายอย่าง เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งเศรษฐกิจ สังคม ทั้งการเมือง
ดาวที่จะชี้ให้เห็นชัด น่าจะเป็นดาวมฤตยู ตอนนี้ เห็นมฤตยูตอนนี้อยู่ตรงราศีเมษ ทับลัคนาเมืองอยู่ ทับอาทิตย์ในดงเมือง จะย้ายในวันที่ 7 กรกฎาคม 2565 เข้าสู่ราศีพฤษภ ถึงวันที่ 15 กันยายนปี 2565 มีระยะ 1 องศา 4 ลิปดา หยุดนิ่งและเปลี่ยนวิถีเป็นถอยหลังเข้าราศีเมษอีกครั้งจนถึงสิ้นปี จะอยู่ตรงนี้ไปถึงวันที่ 8 มีนาคมปี 2566 ดาวมฤตยูก็จะเข้าราศีพฤษภ เป็นเรือนเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ซึ่งดาวมฤตยูไปตรงไหนก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงตรงนั้น กระทั่งดาวมฤตยูได้ฉายาว่าดาวขบถ ไม่ชอบเรื่องเก่าๆ วิถีเก่าๆ กฎหมายเก่า ระเบียบเก่าๆ เมื่อเข้าเรือนการเงินก็ไปเปลี่ยนระบบการเงิน ระเบียบ วิธี กฎหมายเกี่ยวกับการเงินต่างๆ หรือการปริวรรตเงินตรา จะถูกเปลี่ยนไปมโหฬาร ตามอิทธิพลของดาวมฤตยู เพราะฉะนั้น ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ระบบการเงินเปลี่ยน เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และดาวมฤตยูอยู่ราศีพฤษภนานถึง 7 ปี เพราะฉะนั้นการจะอยู่รอดก็ต้องรอบคอบ มีเงินมีทองลงทุนต่างๆในธุรกิจที่เสี่ยงน้อยที่สุด หลีกเลี่ยงสิ่งที่ล่อแหลม (ติดตามรายละเอียดธุรกิจที่มีแนวโน้มรุ่งเรืองสดใสในปี 2565ได้ทางสยามรัฐทีวี ผ่านทางเว็บไซต์ siamrath.co.th เฟซบุ๊ก สยามรัฐ youtube ช่อง siamrath.online