วันที่ 24 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวานนี้ ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมทบทวนกองร้อยควบคุมฝูงชนเข้มแข็ง ตามพระบัญญัติการชุมนุมสาธารณะพ.ศ.2558 ของตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ประจำปี 2565 โดยมี พ.ต.อ.ชยากร เทศะบำรุง รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พันตำรวจเอก กฤศ จันทร์สว่าง ผู้กำกับการฝ่ายอำนวยตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ พ.ต.อ.ณัฐกิตติ์ เจริญเกษสุวรรณ์ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ พ.ต.อ.นพดล ช่วยบุญ ผกก.สภ.น้ำเกลี้ยง, ผบ.ร้อย รอง ผบ.ร้อย, ผบ.หมวด, ผู้สังเกตการณ์ และมีกัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยงจังหวัดศรีสะเกษ ภาคเอกชนนำคณะกรรมการสมาคมร่วมพิธีฝึกและสังเกตการณ์ด้วย ซึ่งการฝึกอบรมทบทวนในครั้งนี้มีข้าราชการตำรวจเข้ารับการฝึกอบรมประกอบด้วย ผู้ปฏิบัติหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชน 1 กองร้อย จำนวน 155 นาย วิทยากรครูฝึก จำนวน 16 นาย ผู้แทนสถานีตำรวจผู้สังเกตการณ์จำนวน 64 นาย เจ้าหน้าที่ประสานงานจำนวน 47 นาย รวมทั้งสิ้น จำนวน 282 นาย โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนมีความรู้ ความเข้าใจ และปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้อง เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของกองร้อยควบคุมฝูงชนในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจภูธรภาค 3 ผู้เข้ารับการฝึกอบรมฝึกยุทธวิธี ได้รับความรู้และมีเทคนิคในการควบคุมฝูงชนพื้นฐาน ตามแนวทางของสหประชาชาติที่สำนักงานตำรวจแห่งชาตินำมาประยุกต์ใช้ เพื่อศึกษาวิเคราะห์ ปัญหา อุปสรรค ข้อขัดข้อง ในการปฏิบัติการของกองร้อยควบคุมฝูงชน ตามแนวทางของสำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ด้วยพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 มีกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ ตลอดจนเงื่อนไขต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมเพิ่มขึ้น ซึ่งสภาพการณ์ปัจจุบันมีแนวโน้มในอนาคต การชุมนุมประท้วงมีลักษณะเป็นเครือข่ายองค์กร มีการพัฒนารูปแบบวิธีการในการชุมนุม โดยการใช้อาวุธและนำเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ตลอดจนการใช้ยานพาหนะเข้ามาใช้ในการชุมนุม ดังนั้นการใช้กำลังควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่รัฐ จะต้องคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักสากล และเป็นไปตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 โดยเคร่งครัด แต่การจะควบคุมฝูงชน การใช้อาวุธหรือจะดำเนินการอะไรก็แล้วแต่ ต้องมีหลัก มีกฎเกณฑ์เพื่อปฏิบัติให้ถูกหลักตามมาตรฐานสากลตามกฏหมายไม่ให้ถูกฟ้องร้องในภายหลัง หัวใจหลักของตำรวจควบคุมฝูงชนก็คือจะต้องรักสามัคคี และที่สำคัญที่สุดคือจะต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่ปฎิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนอยู่ ณ.ขณะนั้น เน้นย้ำว่า ณ ขณะนั้น เชื่อว่าจะทำให้พวกเราอยู่รอดปลอดภัย และจะสามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งผู้ที่ชุมชุมเองและพี่น้องประชาชนหรือบุคคลอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ปลอดภัยทุกคน การฝึกอบรมครั้งนี้เป็นการทบทวน ให้ชำนาญจะได้ไม่หลงลืม และเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะออกไปปฎิบัติหน้าที่ ตำรวจควบคุมฝูงชนจะต้องมีความสำนึกและมีความกระตือรือล้น มีความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง นอกเหนือจากภาระกิจหลักที่ทำอยู่แล้ว เพราะเราเป็นเจ้าพนักงานที่ผ่านการอบรม หากปฏิบัติหน้าที่ได้ ชาติก็อยู่รอดปลอดภัย ขอให้กำลังใจ ขอให้ทุกคนอดทนอดกลั้น “อดทนต่อความเจ็บใจ” นำไปใช้ได้ทุกสถานการณ์ ทั้งในชีวิตในครอบครัว ท่องไว้แล้วปฏิบัติตามจะอยู่รอดปลอดภัยทุกสถานการณ์