องคมนตรี เชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่ราษฎรและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมติดตามการดำเนินงานโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดเชียงใหม่
วันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม 2564 เวลา 09.15 น. นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ เพิ่มเกษร รองเลขาธิการ กปร. และคณะอนุกรรมการฯ เชิญถุงพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปมอบแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานหน่วยงานความมั่นคง กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 337 ณ ฐานจ่อปร่าคี ตำบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 50 ชุด พร้อมกับรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่ และร่วมปลูกต้นไม้
จากนั้น คณะฯ ได้เดินทางไปยังโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ดอยแบแล ตำบลสบโขง อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเชิญถุงพระราชทานรวมทั้งสิ้น 863 ชุด พร้อมเสื้อกันหนาว รวม 531 ตัว ไปมอบแก่เด็กในพื้นที่โครงการฯ จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ดอยแบแล โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านนาเกียน โครงการช่วยเหลือราษฎรบ้านซิแบรอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมกับเยี่ยมชมแปลงสาธิตแปลงข้าวสาลี และผลผลิตของราษฎรที่ได้รับการส่งเสริมจากโครงการฯ โอกาสนี้ได้มอบกล้ากาแฟให้แก่ตัวแทนราษฎร
โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ดอยแบแล มีพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 3 บ้าน ได้แก่ บ้านขุนอมแฮดใน บ้านขุนอมแฮดนอก บ้านพะอัน ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง (โปร์) หรือชาวเขาเผ่าปกาเกอะญอ โครงการฯ ได้ส่งเสริมการปลูกไม้ผลเมืองหนาว กาแฟ และการปลูกพืชหลังนา เช่น มันเทศญี่ปุ่น การปลูกพืชผักสวนครัวปลอดสารพิษ เช่น ผักคะน้า กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว ถั่วพลู การแปรรูปผลผลิตกล้วยฉาบ และฟักทองฉาบ ปัจจุบันราษฎรมีอาชีพที่มั่นคง จากเดิมที่เคยมีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนเพียง 4,000 บาทต่อปี หลังจากได้รับการส่งเสริมพัฒนาอาชีพด้านต่าง ๆ รวมทั้งการทอผ้า ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากศูนย์ศิลปาชีพเพื่อเป็นรายได้เสริมให้แก่ครอบครัวซึ่งในปี 2564 มีรายได้จากกลุ่มทอผ้ารวม 574,250 บาท ส่งผลให้ราษฎรมีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนเพิ่มเป็น 40,000 บาทต่อปี ด้านการศึกษามีผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีถึง 11 คน นอกจากนี้โครงการฯ ยังได้จัดกิจกรรมนาแลกไร่หมุนเวียน ทำให้ได้ผืนป่ากลับคืนมา 1,749 ไร่ และยังฟื้นฟูป่าให้คืนความสมบูรณ์ดังเดิม รวม 2,127 ไร่ โดยมีสำนักงาน กปร. ให้การสนับสนุนงบประมาณดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันสนองพระราชดำริสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการสร้างความมั่นคงให้แก่ราษฎร รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติควบคู่กัน เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อไป
ช่วงบ่าย คณะฯได้เดินทางไปยังโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ดอยอมพาย ตำบลปางหินฝน อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเชิญถุงพระราชทาน จำนวน 95 ชุด พร้อมเสื้อกันหนาว จำนวน 82 ตัว ไปมอบแก่เด็กในพื้นที่โครงการฯ เพื่อบรรเทาความหนาวเย็นจากสภาพอากาศ พร้อมกับติดตามการดำเนินงานและเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ผลผลิตต่างๆ รวมทั้งแปลงเกษตรตัวอย่างตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง โดยโครงการฯได้ส่งเสริมการปลูกกาแฟ เสาวรส พลับ การเลี้ยงหมูหลุม รวมถึงการทำนาขั้นบันไดซึ่งให้ผลผลิตเพียงพอต่อการบริโภค ลดการทำไร่หมุนเวียน มีการจำแนกประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดินให้แก่หมู่บ้าน ทำให้พื้นที่ป่ารอบ ๆ โครงการฯ ฟื้นกลับคืนมาสมบูรณ์ รวมทั้งราษฎรได้คืนพื้นที่ป่าบริเวณที่ตั้งโครงการฯ และพื้นที่ใกล้เคียงให้กับโครงการฯ จำนวน 3,685 ไร่ เป็นพื้นที่แปลงปลูกป่า จำนวน 1,050 ไร่ ราษฎรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและให้ความสำคัญกับการศึกษามากขึ้นซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
กองประชาสัมพันธ์ สำนักงาน กปร.
จากนั้น คณะฯ ได้เดินทางไปยังโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ดอยแบแล ตำบลสบโขง อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเชิญถุงพระราชทานรวมทั้งสิ้น 863 ชุด พร้อมเสื้อกันหนาว รวม 531 ตัว ไปมอบแก่เด็กในพื้นที่โครงการฯ จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ดอยแบแล โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านนาเกียน โครงการช่วยเหลือราษฎรบ้านซิแบรอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมกับเยี่ยมชมแปลงสาธิตแปลงข้าวสาลี และผลผลิตของราษฎรที่ได้รับการส่งเสริมจากโครงการฯ โอกาสนี้ได้มอบกล้ากาแฟให้แก่ตัวแทนราษฎร
โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ดอยแบแล มีพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 3 บ้าน ได้แก่ บ้านขุนอมแฮดใน บ้านขุนอมแฮดนอก บ้านพะอัน ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง (โปร์) หรือชาวเขาเผ่าปกาเกอะญอ โครงการฯ ได้ส่งเสริมการปลูกไม้ผลเมืองหนาว กาแฟ และการปลูกพืชหลังนา เช่น มันเทศญี่ปุ่น การปลูกพืชผักสวนครัวปลอดสารพิษ เช่น ผักคะน้า กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว ถั่วพลู การแปรรูปผลผลิตกล้วยฉาบ และฟักทองฉาบ ปัจจุบันราษฎรมีอาชีพที่มั่นคง จากเดิมที่เคยมีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนเพียง 4,000 บาทต่อปี หลังจากได้รับการส่งเสริมพัฒนาอาชีพด้านต่าง ๆ รวมทั้งการทอผ้า ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากศูนย์ศิลปาชีพเพื่อเป็นรายได้เสริมให้แก่ครอบครัวซึ่งในปี 2564 มีรายได้จากกลุ่มทอผ้ารวม 574,250 บาท ส่งผลให้ราษฎรมีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนเพิ่มเป็น 40,000 บาทต่อปี ด้านการศึกษามีผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีถึง 11 คน นอกจากนี้โครงการฯ ยังได้จัดกิจกรรมนาแลกไร่หมุนเวียน ทำให้ได้ผืนป่ากลับคืนมา 1,749 ไร่ และยังฟื้นฟูป่าให้คืนความสมบูรณ์ดังเดิม รวม 2,127 ไร่ โดยมีสำนักงาน กปร. ให้การสนับสนุนงบประมาณดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันสนองพระราชดำริสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการสร้างความมั่นคงให้แก่ราษฎร รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติควบคู่กัน เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อไป
ช่วงบ่าย คณะฯได้เดินทางไปยังโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ดอยอมพาย ตำบลปางหินฝน อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเชิญถุงพระราชทาน จำนวน 95 ชุด พร้อมเสื้อกันหนาว จำนวน 82 ตัว ไปมอบแก่เด็กในพื้นที่โครงการฯ เพื่อบรรเทาความหนาวเย็นจากสภาพอากาศ พร้อมกับติดตามการดำเนินงานและเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ผลผลิตต่างๆ รวมทั้งแปลงเกษตรตัวอย่างตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง โดยโครงการฯได้ส่งเสริมการปลูกกาแฟ เสาวรส พลับ การเลี้ยงหมูหลุม รวมถึงการทำนาขั้นบันไดซึ่งให้ผลผลิตเพียงพอต่อการบริโภค ลดการทำไร่หมุนเวียน มีการจำแนกประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดินให้แก่หมู่บ้าน ทำให้พื้นที่ป่ารอบ ๆ โครงการฯ ฟื้นกลับคืนมาสมบูรณ์ รวมทั้งราษฎรได้คืนพื้นที่ป่าบริเวณที่ตั้งโครงการฯ และพื้นที่ใกล้เคียงให้กับโครงการฯ จำนวน 3,685 ไร่ เป็นพื้นที่แปลงปลูกป่า จำนวน 1,050 ไร่ ราษฎรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและให้ความสำคัญกับการศึกษามากขึ้นซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
กองประชาสัมพันธ์ สำนักงาน กปร.