สนูเป็นของเล่นชนิดหนึ่งเมื่อครั้งอดีตแต่ปัจจุบันจะหาดูได้อยากเนื่องจากความเจริญเข้ามาเยือนและการเล่นสนูก็เลือนหายไปแต่ที่ยโสธรยังมีชาวบ้านอนุรักษ์และทำสนูไว้จำหน่ายกับผู้ที่หลงเสน่ของเสียงสนูด้วยราคา100-200 บาท
นายวิรัช เวฬุวณาธร อายุ 59 ปี 19 หมู่ 13 ตำบลห้วยแก้ง อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธรเปิดเผยว่า สนูเป็นของเล่นชนิดหนึ่งของชาวชนบทเมื่อครั้งอดีตเมื่อ 60 ปีที่ผ่านมา และก็ได้เลือนหายไปกับกาลเวลาและความเจริญแต่ตนยังได้ทำและอนุรักษ์ไว้อีกทั้งขายเมื่อมีประชาชนที่เคยเล่นหลงไหลในเสียงของสนูโดยขายในราคาอันละ 100-200 บาท เท่านั้น สำหรับการทำสนูนั้นก็มีขั้นตอนและอุปกรณ์ที่หาในท้องถิ่นไม่ได้ซื้อหาแต่อย่างใดเพราะมีอยู่แล้วเช่นไม่ไผ่ ใบตาล และก็ด้ายเส้นไหมที่ทอผ้า ซึ่งขึ้นตอนการทำสนูนั้นก็นำไม้ไผ่ที่เราตัดมาผ่าเป็นริ้วหนาประมาณ หัวแม่มือและยาวประมาณ 1 เมตรขึ้นไปแล้วแต่ความต้องการจากนั้นก็นำมาเหลาลบเหลี่ยมให้กลมส่วนปลายทั้งสองด้านเหลาให้บางเพื่อที่จะดัดโค้งงอได้ จากนั้นก็นำใบตาลมาทำเป็นปรึ้นกว้างประมาณ 1 เซ็นติเมตร ก็นำเส้นด้ายไหมมาผูกส่วนปลายของปรึ้นที่เราเตียมไว้โดยผูกทั้งสองด้าน แล้วนำมาผูกติดกับคันสนูที่เตรียมไว้โดยทำให้ส่วนปลายของคันสนูมีส่วนโค้งพอประมาณทั้งสองด้านแล้วนำชันณรงค์ซึ่งเป็นแมลงชนิดหนึ่งที่อยู่ใต้ดินมาติดระหว่างเชือกที่ผูกกับปรึ้นเรียกว่าหัวสนูเมื่อเสร็จแล้วก็นำเชือกมาผูกติดกับสนูให้อยู่ส่วนกลางของคันสนูก็เป็นอันว่าเสร็จเรียบร้อยเมื่อนำติดกับส่วนหัวของว่าวปล่อยขึ้นไปบนท้องฟ้าเมื่อสนูกระทบกับแรงลมก็จะส่งเสียงอย่างไพเราะตามที่ลมพัดมากระทบกับสนูจึงเป็นของเล่นของชาวชนบทในช่วงฤดูหนาว

