โดยผู้เสียชีวิตยังเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปถึง 25 ราย กลุ่มโรคเรื้อรัง 7 ราย ส่วนยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้พบ 2,476 ราย มาจากต่างประเทศ 30 ราย และเมื่อรวมกับผู้ป่วยจากการตรวจ ATK 264 ราย จะมีผู้ติดเชื้อรวม 2,740 ราย ขณะที่ผู้ป่วยอาการหนักปอดอักเสบ 880 ราย และมีอาการโคม่าต้องใส่เครื่องช่วยหายใจจำนวน 237 ราย ก็ลดลงต่อเนื่อง สำหรับจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร จำนวน 559 ราย และตายสูงสุดที่จ.เชียงใหม่ 4 ราย ส่วนยอดติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 47 ราย รักษาหาย 3,649 ราย ยังรักษาอยู่ 38,892 ราย
วันที่ 21 ธ.ค.2564 ศูนย์ข้อมูลCOVID-19 รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 2,476 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,446 ราย (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพ 2,358 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 41 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 47 ราย) และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 30 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63 รวม 2,196,529 ราย อย่างไรก็ตามหากรวมยอดผู้ป่วยจากการตรวจ ATK จำนวน 264 ราย ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่จะมีถึง 2,740 ราย
วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 32 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 21,440 ราย หายป่วยอีก 3,649 ราย รวมยอดรักษาหาย 2,136,197 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 38,892 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.18,833 ราย ในรพ.สนาม/HI-CI 20,059 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 880 ราย มีผู้ป่วยหนักนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 237 ราย
สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต จำนวน 32 ราย เป็นเพศชาย 19 ราย เพศหญิง 13 ราย อายุ 26-90 ปี อยู่ในพื้นที่ เชียงใหม่และตากมากที่สุด 4 ราย โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความรุนแรงของโรคและเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น

