‘ทีวี ไดเร็ค’ หรือ TVD เร่งเครื่องสร้างการเติบโตธุรกิจ B2B ผ่านบริษัท ‘ABPO’ รุกธุรกิจให้บริการที่ปรึกษาการวางกลยุทธ์และการจัดการด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีแบบครบวงจร เปิดแผนบุก 4 ธุรกิจดาวเด่น เป็นผู้การให้บริการบริหารสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้า การพัฒนาระบบไอทีและเทคโนโลยี สนับสนุนลูกค้าทรานส์ฟอร์เมชั่น พร้อมรุกหนักธุรกิจรับส่งพัสดุภายใต้ชื่อ Xpresso ธุรกิจนายหน้าประกันภัย TVD Broker ด้าน TVD ปรับกลยุทธ์บุกแพลตฟอร์มออนไลน์ หลังจำนวนผู้รับชมทีวีทยอยลดลงต่อเนื่อง
ดร.อาทิตย์ น้อยเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอบีพีโอ จำกัด หรือ ABPO ในเครือ บมจ.ทีวี ไดเร็ค (TVD) ผู้ให้บริการด้าน BPO (Business Process Outsourcing) Direct Response Agency โลจิสติกส์ ดาต้าเซ็นเตอร์ อินเตอร์เน็ต และคอลล์ เซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า จากนโยบายของ TVD ที่มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจ B2B (Business to Business) สู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ผ่านการดำเนินงานของบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการที่ปรึกษาการวางกลยุทธ์และการจัดการด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีแบบครบวงจร (Tech For Business) เพื่อรองรับภาคธุรกิจที่ต้องการทรานส์ฟอร์เมชั่นและนำเทคโนโลยีมาขับเคลื่อนธุรกิจ โดยเป็นหนึ่งในธุรกิจที่จะสร้างการเติบโตให้กับ TVD คาดว่าภายในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า ABPO จะสร้างรายได้คิดเป็นสัดส่วน 70% ให้แก่ บมจ.ทีวี ไดเร็ค
ทั้งนี้บริษัทเดินหน้ารุกธุรกิจภายใต้โครงสร้าง 4 กลุ่มธุรกิจที่ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล ได้แก่ 1.ระบบจัดการธุรกิจออนไลน์ (Fulfillment) โดยให้บริการรับส่งพัสดุทั่วประเทศผ่านโมบายแอปพลิเคชั่น Xpresso แก่ผู้ค้าออนไลน์ เอสเอ็มอี และลูกค้าทั่วไป เพื่อรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างรวดเร็ว คาดการณ์จะมีมูลค่าตลาดรวม 6.9 แสนล้านบาทในปี 2564 จากเมื่อปีที่ผ่านมามีมูลค่า 3.79 แสนล้านบาท 2.การบริหารสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้า (Direct response Agency) ให้บริการด้านผลิตมีเดียเพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นยอดขายผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งบริษัทฯ ได้ลงทุน eatsHUB ผ่านบริษัท ฟู้ด ออเดอรี่ จำกัด ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันด้านการบริหารจัดการธุรกิจร้านอาหาร เพื่อต่อยอดเทคโนโลยีและการให้บริการแก่ลูกค้า
3.การให้บริการพัฒนาระบบไอทีและเทคโนโลยี (Business Technology outsource) ได้แก่ การให้บริการ Data Center Solution, Cloud Service, การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศตามความต้องการขององค์กร โดยจะนำเทคโนโลยีของสตาร์ทอัพ ได้แก่ บริษัท อี๊ตแล็บ จำกัด หรือ EATLAB สตาร์ทอัพด้านโซลูชั่นธุรกิจร้านอาหาร ‘Blockfint’ สตาร์ทอัพด้าน Fintech และ 2Read สตาร์ตอัพด้าน Edtech ที่บริษัทฯ เข้าไปลงทุนมาต่อสู่โมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่และให้บริการกับลูกค้า ปัจจุบันได้ขยายธุรกิจสู่การพัฒนาแอปพลิเคชันให้แก่ลูกค้า 4. การบริหารกระบวนการทางธุรกิจให้กับองค์กร (Business Process Outsourcing) ได้แก่ การให้บริการทางโทรศัพท์ (Call Center) และการพัฒนาซอฟต์แวร์
ดร.อาทิตย์ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ พร้อมให้บริการทั้งการเป็นที่ปรึกษาการวางกลยุทธ์และการนำเสนอเทคโนโลยีแบบครบวงจร ตอบโจทย์กับบริษัททุกขนาดที่ต้องการจะใช้ Business Model ในรูปแบบ D2C (Direct to consumer) เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจทรานส์ฟอร์เมชั่นและสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน ขณะที่ธุรกิจนายหน้าประกันภัย TVD Broker วางแผนขยายธุรกิจสู่นายหน้าประกันภัยแบบครบวงจรที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายโดยในปี 2564 คาดการณ์ว่าบริษัทฯ จะมีรายได้กว่า 1,000 ล้านบาท และสร้างกำไรได้ตามเป้าหมายที่ 20 ล้านบาท
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ผู้นำธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านช่องทางทีวีและออนไลน์ กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจทีวี โฮมช้อปปิ้ง เริ่มมีฐานผู้ชมลดลงอย่างต่อเนื่อง จากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับชมสู่ TV On Demand มากขึ้น โดยกลุ่มธุรกิจทีวี โฮมช้อปปิ้งของ TVD กำลังอยู่ระหว่างการปรับกลยุทธ์การตลาดมุ่งขับเคลื่อนสู่อีคอมเมิร์ซในทุกแพลตฟอร์ม เพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งอย่างไร้รอยต่อให้กับผู้บริโภค
ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ผู้บริหารจากบริษัทโมโม่ดอทคอม จำกัด หรือ Momo.com Inc. (MOMO) ไต้หวัน ที่มีความเชี่ยวชาญเทคโนโลยีและเชื่อมต่อกันทุกแพลตฟอร์ม ร่วมพัฒนาเว็บไซต์และแอปพลิเคชันฟีเจอร์ใหม่ ที่ตอบโจทย์กับพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ เพื่อให้ลูกค้าทดลองใช้บริการในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากช่องทางออนไลน์เป็น 30% ในปี 2565
ทั้งนี้บริษัทเดินหน้ารุกธุรกิจภายใต้โครงสร้าง 4 กลุ่มธุรกิจที่ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล ได้แก่ 1.ระบบจัดการธุรกิจออนไลน์ (Fulfillment) โดยให้บริการรับส่งพัสดุทั่วประเทศผ่านโมบายแอปพลิเคชั่น Xpresso แก่ผู้ค้าออนไลน์ เอสเอ็มอี และลูกค้าทั่วไป เพื่อรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างรวดเร็ว คาดการณ์จะมีมูลค่าตลาดรวม 6.9 แสนล้านบาทในปี 2564 จากเมื่อปีที่ผ่านมามีมูลค่า 3.79 แสนล้านบาท 2.การบริหารสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้า (Direct response Agency) ให้บริการด้านผลิตมีเดียเพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นยอดขายผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งบริษัทฯ ได้ลงทุน eatsHUB ผ่านบริษัท ฟู้ด ออเดอรี่ จำกัด ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันด้านการบริหารจัดการธุรกิจร้านอาหาร เพื่อต่อยอดเทคโนโลยีและการให้บริการแก่ลูกค้า
3.การให้บริการพัฒนาระบบไอทีและเทคโนโลยี (Business Technology outsource) ได้แก่ การให้บริการ Data Center Solution, Cloud Service, การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศตามความต้องการขององค์กร โดยจะนำเทคโนโลยีของสตาร์ทอัพ ได้แก่ บริษัท อี๊ตแล็บ จำกัด หรือ EATLAB สตาร์ทอัพด้านโซลูชั่นธุรกิจร้านอาหาร ‘Blockfint’ สตาร์ทอัพด้าน Fintech และ 2Read สตาร์ตอัพด้าน Edtech ที่บริษัทฯ เข้าไปลงทุนมาต่อสู่โมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่และให้บริการกับลูกค้า ปัจจุบันได้ขยายธุรกิจสู่การพัฒนาแอปพลิเคชันให้แก่ลูกค้า 4. การบริหารกระบวนการทางธุรกิจให้กับองค์กร (Business Process Outsourcing) ได้แก่ การให้บริการทางโทรศัพท์ (Call Center) และการพัฒนาซอฟต์แวร์
ดร.อาทิตย์ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ พร้อมให้บริการทั้งการเป็นที่ปรึกษาการวางกลยุทธ์และการนำเสนอเทคโนโลยีแบบครบวงจร ตอบโจทย์กับบริษัททุกขนาดที่ต้องการจะใช้ Business Model ในรูปแบบ D2C (Direct to consumer) เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจทรานส์ฟอร์เมชั่นและสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน ขณะที่ธุรกิจนายหน้าประกันภัย TVD Broker วางแผนขยายธุรกิจสู่นายหน้าประกันภัยแบบครบวงจรที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายโดยในปี 2564 คาดการณ์ว่าบริษัทฯ จะมีรายได้กว่า 1,000 ล้านบาท และสร้างกำไรได้ตามเป้าหมายที่ 20 ล้านบาท
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ผู้นำธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านช่องทางทีวีและออนไลน์ กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจทีวี โฮมช้อปปิ้ง เริ่มมีฐานผู้ชมลดลงอย่างต่อเนื่อง จากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับชมสู่ TV On Demand มากขึ้น โดยกลุ่มธุรกิจทีวี โฮมช้อปปิ้งของ TVD กำลังอยู่ระหว่างการปรับกลยุทธ์การตลาดมุ่งขับเคลื่อนสู่อีคอมเมิร์ซในทุกแพลตฟอร์ม เพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งอย่างไร้รอยต่อให้กับผู้บริโภค
ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ผู้บริหารจากบริษัทโมโม่ดอทคอม จำกัด หรือ Momo.com Inc. (MOMO) ไต้หวัน ที่มีความเชี่ยวชาญเทคโนโลยีและเชื่อมต่อกันทุกแพลตฟอร์ม ร่วมพัฒนาเว็บไซต์และแอปพลิเคชันฟีเจอร์ใหม่ ที่ตอบโจทย์กับพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ เพื่อให้ลูกค้าทดลองใช้บริการในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากช่องทางออนไลน์เป็น 30% ในปี 2565