เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.64 ที่บ้านพักซอยคลังมนตรี ประชาชื่น พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการทำคดี และความเห็นของคดีเสือดำ ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดีล่าเสือดำ สัตว์ป่าคุ้มครองในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี ในขณะนั้น
โดย นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวก 4 คน เป็นผู้ต้องหาความผิดหลายข้อหา จากการร่วมกันล่าเสือดำในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อปี 2561
จนถึงวันที่ 8 ธันวาคม 2564 ศาลจังหวัดทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ได้อ่านคำสั่งศาลฎีกาพิพากษาสั่งจำคุก นายเปรมชัย 2 ปี 14 เดือน และพวกอีก 2 คน โดยไม่รอลงอาญานายเปรมชัย
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า สมัยเป็นหัวหน้าชุดทำคดีก็ทำงานไปตามหน้าที่ ส่วนกรณีที่มีภาพก้มไหว้ นายเปรมชัย ทำให้สังคมมีข้อครหาว่าตำรวจจะช่วยเหลือทางคดีนั้น ยืนยันว่าที่ตนเองก้มกราบ เป็นเพราะได้รับการสั่งสอนมาแบบนี้ ที่บ้านนับถือพรามณ์มีการไหว้และรับไหว้เป็นประจำ อีกทั้งการที่รับไหว้ไม่ได้ทำให้กฏหมายเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือคนจนทุกคนเท่าเทียมกันหมด เมื่อถูกดำเนินคดีก็มีสิทธิต่อสู้ตามกฏหมาย อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีความกดดันในการทำคดี เพราะช่วงแรกมีพยานหลักฐานน้อย โดยเฉพาะในข้อกล่าวหาร่วมกันล่าสัตว์ ในสำนวนไม่มีเสือสักตัว มีแต่หนังเสือ กระดูกเสือ ซึ่งเป็นซากสัตว์ มีความผิดฐานครอบครองซากสัตว์ โทษคุก 4 ปี ก็ต้องมาพิสูจน์ว่า หนังเสือ เนื้อเสือ และกระดูกเสือเป็นเสือตัวเดียวกัน รูกระสุนตรงกันกับอาวุธ ซึ่งระหว่างการต่อสู้คดีไม่มีการติดต่อมาจากฝ่ายนายเปรมชัย แต่ส่วนตัวรู้สึกสงสารผู้ใต้บังคับบัญชา และครอบครัว ส่วนตนเองไม่ได้อะไรคิดมาก ส่วนหลังจากที่นายเปรมชัยพ้นโทษ จะโกรธเคืองจนหรือไม่นั้น ตนไม่อาจทราบได้
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยังฝากถึงตำรวจว่าอย่าคล้อยตามกระแสสังคม ให้ทำตามกฎหมายของบ้านเมือง ให้รักกันมากๆ มีอะไรให้คุยปรับความเข้าใจกัน เป็นตำรวจที่ดี และอยากฝากถึงพี่น้องประชาชนว่า ไม่ต้องกังวลว่าคนรวยจะไม่ถูกดำเนินคดี หากใครทำผิด ต้องถูกดำเนินคดีทุกคนไม่ว่ารวยหรือจน เพราะทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกฎหมาย