สัตว์แปลกประหลาด ที่มีรูปลักษณ์คล้ายหนู ปากแหลม จมูกคล้ายหมู มีสีเทาคาดดำส่วนหางมี 2 สีขาวและดำ ซึ่งมีสจ.อะหมาด หลงจิ ในตำบลฉลุง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ได้พบสัตว์ดังกล่าวมาคลอดลูกทิ้งไว้ภายในเล้าไก่หลังบ้านจำนวน 2 ตัวนั้น สร้างความฉงนสนเท่ห์ให้กับตัวสจ.และคนในหมู่บ้าน เพราะไม่มีใครเคยเห็นสัตว์ชนิดนี้มาก่อนนั้น ล่าสุดทีมข่าว ได้เดินทางไปตามล่าหาความจริงที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองปลักพระยาและเขาระยาบังสา ต.ฉลุง อ.เมืองสตูล ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านที่พบสัตว์แปลกดังกล่าว โดยพบหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองปลักพระยา เขาระยาบังสา ได้มอบหมายให้ นายเหมีย ทองมี อายุ 58 ปี พนักงานราชการ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองปลักพระยาและเขาระยาบังสา ได้เฉลยว่า สัตว์ชนิดนี้เรียกว่า หนูสาทู หรือหนูสาโท หรือ หนูเหม็นเสาโท พบเห็นมากในยามค่ำคืนจะออกมาหาอาหารโดยเฉพาะในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าแห่งนี้ฯ ลักษณะลำตัวโตเต็มวัยมีน้ำหนัก ครึ่งกิโลกรัมถึง 1 กิโลกรัม ลำตัวจะมี 2 สี 2 ชนิดคือสีขาวทั้งตัวและสีดำร่องขาว ขนปุกปุย มักจะออกมาหากินในหน้าแล้งจำนวนมากโดยเฉพาะในยามค่ำคืนซึ่งที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่านี้มีประชากรหนูชนิดนี้ให้เห็น เพราะเป็นสัตว์พื้นถิ่น ไม่ได้เป็นสัตว์แปลกประหลาดแต่อย่างใด ซึ่งก่อนหน้านี้มีชาวบ้านนำมามอบให้ทางเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเนื่องจากพบว่าเจ้าหนูเหม็นสาโท ติดไปอยู่ในกรงดักหนูโดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยกลับคืนสู่ป่าแล้ว สำหรับเรื่องเล่าและความเป็นมาของหนูเหม็นสาโท หรือเสาโท ในอดีตชาวบ้านที่ทำนามักจะใช้หนังหนูเหม็นสาโทไว้ในยุ้งข้าว เพื่อป้องกันไม่ให้หนูบ้านหรือสัตว์ชนิดอื่นเข้าไปกัดกินข้าว ด้วยกลิ่นสาปตัวที่แรงทำให้ป้องกันสัตว์ชนิดอื่นไม่เข้ามากัดกินข้าวได้ดี จึงเป็นที่มาของคำว่าหนูเหม็นหรือหนูสาโท ปัจจุบันหนูชนิดนี้ได้รับการประกาศเป็นสัตว์คุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าปีพุทธศักราช 2535 มีนิสัยค่อนข้างดุ ฤดูผสมพันธุ์ตลอดทั้งปี ๆ ละ 2 ครอก มีลูกครอกละ 2 ตัว หากินยามค่ำคืน อาศัยหลบซ่อนตัวในรูดิน โพรงไม้ อาหารก็จะกินด้วง แมลง หนอน