คปภ.บุรีรัมย์พร้อมติดตามเร่งรัดบริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมให้ครอบครัว “น้องหญิง” นศ.สาวที่ถูกเบนซ์ชนดับ หลังคณะกรรมการฯ มีมติสั่งปรับอัตราโทษสูงสุด 1,858,400 บาท และปรับรายวันๆ ละ 20,200 บาท ฐานประวิงการจ่ายทั้งที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ยัน คปภ.ทำงานเต็มที่เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับครอบครัวผู้สูญเสีย วันนี้ (8 ธ.ค.64) ความคืบหน้ากรณีรถเบนซ์ที่ทำประกันภัยไว้กับบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ของ “น้องหญิง” นักศึกษาสาว​ มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ เป็นเหตุให้น้องหญิงเสียชีวิต เหตุเกิดก่อนถึงทางกลับรถบ้านสองชั้น ต.สองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 1 พ.ค.64 ที่ผ่านมา และศาลจังหวัดบุรีรัมย์ มีคําพิพากษาถึงที่สุด ตามคดีหมายเลขแดงที่ อ. 1606/2564 ลงวันที่ 31 ส.ค. 64 ว่า​ ผู้เอาประกันภัยซึ่งขับขี่รถเบนซ์ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และว่าสุดคณะกรรมการเปรียบเทียบฯ จึงมีมติให้เปรียบเทียบปรับบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในอัตราโทษสูงสุดเป็นเงินทั้งสิ้น 1,858,400 บาท และปรับรายวันอีกวันละ 20,200 บาท จนกว่าจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิต “ความผิดฐานประวิงการจ่ายค่าสินไหม” เป็นโทษปรับทางอาญา ด้านนางพร้อมพรรณ ดีเลิศ ผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ.จังหวัดบุรีรัมย์ ระบุว่า หลังจาก คปภ.มีมติสั่งปรับบริษัทประกันในอัตราสูงสุด จากกรณีที่ประวิงการจ่ายสินไหมให้กับครอบครัวหรือทายาทของ “น้องหญิง” ทาง คปภ.บุรีรัมย์ซึ่งดูแลรับผิดชอบในพื้นที่ ก็จะได้ช่วยติดตามเร่งรัดให้บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมให้กับครอบครัวผู้สูงเสียชีวิตในอีกทางหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาทาง คปภ.บุรีรัมย์ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ติดตามเรื่องและลงพื้นที่หาข้อมูลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ก็จะได้รายงานความคืบหน้าให้ทางจังหวัด และผู้บังคับบัญชาทราบด้วย อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทางครอบครัวของน้องหญิงก็ไม่ต้องดำเนินการอะไรแล้ว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะติดตามเรื่องให้ เพื่อให้ครอบครัวผู้สูญเสียได้รับความเป็นธรรมตามสิทธิที่ควรจะได้ ส่วนที่ทางบริษัทประกันภัยแจ้งความผู้ขับขี่รถเบนซ์นั้น ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ ซึ่งทาง คปภ.ก็ไม่ได้เข้าไปก้าวก่าย เพียงแค่จะสอบถามข้อมูลกับทางตำรวจเพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเท่านั้น