อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยแสตมฟอร์ด และเป็น ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์   2 สมัย ใช้ชีวิตในบั้นปลายพลิกผืนดินครอบครัวทำการเกษตรปลูกกล้วย  ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้รับผลดีเกิดคาด         วันนี้ ( 3 ธ.ค. 64 )  ตัวอย่างการใช้ชีวิตอย่างแบบพอเพียงที่ไร่ “ ศิริเนาวกุล ” ของ ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล อายุ 66 ปี อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยแสตมฟอร์ด และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ราชบุรีมา 2 สมัย และนางกัลยา ศิริเนาวกุล  ภรรยา ซึ่งได้ใช้พื้นที่ 40 ไร่ บริเวณหมู่ 2  บ้านดอยดิน ต.ห้วยไผ่ อ.เมือง จ.ราชบุรี  หันมาทำการเกษตรปลูกผลไม้มีทั้งกล้วยน้ำว้าสายพันธุ์ปากช่อง 50  จากการเพาะเนื้อเยื่อ ปลูกแซมไปกับต้นมะละกอพันธุ์ฮอลแลนด์ ที่ได้หมดชุดการเก็บไปแล้ว และยังมีส้มโอพันธุ์ทับทิมสยามที่เริ่มเจริญเติบโตแล้ว  แต่ที่ไร่จะเน้นหนักไปที่กล้วยพันธุ์ปากช่อง  ที่ได้นำหน่อกว่า 3,000 หน่อ มาทยอยปลูก ลักษณะลำต้นสูงใหญ่ ออกลูกดก มีหวีขนาดใหญ่  หลังจากที่ได้พยายามศึกษาหาความรู้ต่าง ๆ ทั้งจากศูนย์ศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.โพธาราม เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาที่ดินก่อนจะมีการปลูกผลไม้แบบผสมผสาน  ปลูกปอเทืองก่อนเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน โดยกล้วยสายพันธุ์นี้จะมีข้อดี คือ มีเปลือกหนา และยังมีระยะเวลายาวนานของการสุกกว่ากล้วยน้ำว้าทั่วไป ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ และห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ มาก                  ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล  กล่าวว่า  ช่วงเกษียนจากการเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเอกชน และช่วงที่เป็นนักการเมืองได้รู้ว่าการทำเกษตรทำยาก มีการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของศาสตร์พระราชาของในหลวงรัชกาลที่ 9  จะมีหลักสำคัญอยู่ 3 ข้อ คือ ต้องพึ่งตัวเองให้ได้  และมีเรื่องพอประมาณซึ่งต้องยึดเรื่องนี้ ส่วนเรื่องสุดท้ายคือ ต้องมีเหตุผล  จะต้องเกี่ยวเนื่องกันตลอดกับเรื่องเหล่านี้ เมื่อทำได้ เหลือพอแล้วจึงเอาออกไปขาย ค่อย ๆ เติบโตอย่างมีเหตุผล โดยต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้ดี  ที่ไร่จะมีการปลูกมะละกอช่วงแรกที่ปลูกได้ผลผลิตมีรายได้ดี ต่อมาพอกล้วยน้ำว้าออกผลผลิตใหม่ ๆ การปลูกมะละกอก็เริ่มหมดลูกแล้ว และปลูกชุดใหม่ขึ้นตามมาอีก  ครอบครัวได้ไปศึกษาเรียนรู้เรื่องดินตามศาสตร์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ความรู้จากสำนักงานพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตร มาช่วยดูที่ดินถึงความเหมาะสมของการปลูกผลไม้ให้ แต่ก่อนที่นี่เป็นแหล่งชุ่มน้ำ ปลูกอะไรไม่ค่อยได้ แต่ต่อมาได้ปรับพื้นที่ดินใหม่ใช้ศาสตร์ของพระองค์ มาปรับปรุง ยกร่องน้ำ ทำระบบน้ำใหม่ ทำให้ใช้น้ำได้ทั้งแปลง  ผลผลิตเจริญเติบโตดีมาก                   ส่วนการปลูกกล้วยได้ความรู้จากน้องชายของภรรยา และอีกส่วนได้ไปศึกษาที่สถานีวิจัยปากช่อง จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์   จ.นครราชสีมา โดยลูกกล้วยมีขนาดผลใหญ่ยาวพอดีกับที่เมืองนอก และห้างสรรพสินค้ามีความต้องการ  รสชาติก็หวานไม่แพ้กันกับกล้วยน้ำว้าธรรมดา เวลาทำแพ็กกิ้งจะได้ขนาดไซต์ดี ดูสวยงาม   บางเครือได้ 14 – 15 หวี ชั่งน้ำหนักหวีละประมาณ 2 กิโลกรัมครึ่ง  บางหวีมีมากถึง 17 ลูก                 สำหรับการดูแลค่อนข้างพิเศษกว่ากล้วยน้ำว้าทั่วไป อยากให้ลูกโตต้องให้ น้ำ ปุ๋ย  สม่ำเสมอ มีการฉีดฮอร์โมนที่ใบและเครือกล้วยเล็กน้อย เพื่อให้มีผลใหญ่ ช่วงเริ่มแรกของการออกผลผลิตจะขายแบบถูก ๆ ก่อนเพราะเพิ่งออกมาไม่ถึง 3 เดือน จึงลองเปิดตลาดขายที่หน้าบ้าน  ตามปกติขนาดไชต์ใหญ่นี้จะขายอยู่ประมาณหวีละ 35-40 บาท  ที่ขายถูกเพราะอยากแนะนำให้คนราชบุรีรู้จักกล้วยพันธุ์ปากช่อง 50 มากขึ้น                   สำหรับประวัติ ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล  อดีตเคยเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มา 2 สมัย  ในปี 2538 และ 2539 ต่อมาเป็นอธิการบดี มหาวิทยาลัยแสตมฟอร์ดประมาณ 6 ปี   ตอนนี้ได้ทิ้งบทบาทนั้นไปแล้ว หันมาชื่นชมทำเกษตร มีความภูมิใจที่เดินตามหลักแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ในหลวง ร.9 แล้วมีความสุข  มองว่าหลายคนสามารถปรับใช้ในชีวิตได้จนประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี                    ผลผลิตในไร่จะนำมาขายที่หน้าบ้านเลขที่ 80/22 ถนนคฑาธร อ.เมืองราชบุรี ทำให้มีประชาชนสนใจ  แวะมาเลือกซื้อกันอย่างไม่ขาดสาย เนื่องจากจะขายราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไปมาก  หวีใหญ่ขายเพียงหวีละ 20 บาทรองลงมา 15 บาทและ 10 บาทตามลำดับ หวีปลายสุดขายเพียงหวีละ 5 บาท  ซึ่งหากเทียบกับตามตลาดถึงว่าไร่ศิริเนาวกุล ถูกกว่ากันมาก