ผู้สื่อข่าวรายงานวันที่ 2 ธ.ค. 2564 วานนี้เวลาประมาน 13.00 น. ร.ต.อ.อัฐวี บัวยม ตำแหน่ง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมือง จ.ปัตตานี รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง บรรทุกหินชนกับรถกระบะ บริเวณจุดยูเทิร์น หน้าสถานีขนส่งผู้โดยสานปัตตานี บนถนนสาย 42 ต.ตะลุโบะ อ.เมือง จ.ปัตตานี จึงนำกำลังไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบสภาพรถทั้ง 2 คัน ตกลงไปอยู่ในร่องกลางถนน นายมุสตอปา ตาเล๊ะ อายุ 37 ปี เป็นผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วง ยี่ห้อ ฮีโน่สีขาว ทะเบียนส่วนหน้า 80-5858 ปัตตานี ทะเบียนส่วนพ่วง 80-3429 ปัตตานี และอีกคันเป็นรถยนต์ยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีเทา ทะเบียน ฌว 1423 กรุงเทพฯ มีสภาพห้องโดยสารถูกรถสิบล้อพ่วงทับยุบลงมา เสียหายยับเยิน ส่วนคนขับทราบชื่อ นส.ไซนับ สาแม อายุ 21 ปี ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลที่ลำตัวเล็กน้อย ส่วนอีกราย เป็นเด็กหญิอายุ 10 ปี ติดอยู่ในรถ เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามนำร่างออกมา ก่อนส่งไปยังโรงพยาบาลปัตตานี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยทั้ง 2 คน เป็นพี่น้องกัน อยู่ ถ.ปากน้ำ ต.สะบารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า รถพ่วงบรรทุกหินเต็มคันกำลังขับไปทางนราธิวาสเพื่อไปส่งหิน เมื่อถึงที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน มีรถยนต์ขับมาทางนราธิวาส และกำลังเข้ายูเทริน คาดว่าจะขับเข้าทางโทแยกทางเอกทางขวารูปตัววาย บริเวณหน้า บขส.ปัตตานี ผู้ขับรถยนต์คาดว่าพ้น ปรากฏว่ารถพ่วงได้กดแตรมาแต่ไกล และทำการเบรกรถ แต่เบรกไม่อยู่ ทำให้พุ่งชนรถยนต์ดังกล่าว ก่อนลากข้ามเกาะกลาง ไปยังถนนสวนเลน และลากตกลงไปในร่องเกาะกลาง เป็นระยะทางประมาน 100 เมตร ทำให้รถพ่วงเกยทับอยู่กับรถยนต์ ด้านพลเมืองดีเร่งช่วยเหลือเด็กสาววัย 10 ปีที่ติดอยู่ในรถยนต์ แต่ก็ไม่สามารถนำร่างออกมาได้ ส่วนผู้ขับเป็นพี่สาวก็ตกใจและร้องให้อยู่ข้างๆรถ ชาวบ้านแถวนั้นจึงพยามกันไม่ให้เข้ามาดูสภาพน้อง ส่วนผู้ขับขี่รถสิบล้อพ่วงก็อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่โดยดี
นายเชาวฤทธิ์ บุญช่วย ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ และทำการเข้าช่วยเหลือ กล่าวว่า รถพ่วงขับตรงมาปกติ ความเร็วประมาน 60-70 กม/ชม. แต่มีรถยนต์ไม่แน่ใจว่าจะเข้า บขส.หรือ ข้ามเลนเข้าไปเส้นทางเข้าหมู่บ้าน ทำให้รถพ่วงเบรกไม่ทัน ก็เลยชนเต็มๆและลากไปเข้าร่องกลางถนน สาเหตุที่ลากยาวอาจะเป็นเพราะว่าเมื่อรถพ่วงชนแล้วพวงมาลัยอาจจะควบคุมไม่อยู่ ช่วงนั้นตนเห็นก็เลยรีบเข้าไปช่วยผู้บาดเจ็บ ทั้ง 2 ราย เป็นผู้หญิง 2 คน อีกคนอยู่ข้างนอกแล้ว ส่วนเด็กหญิงติดอยู่ในรถ อาการสาหัส ทุกคนก็พยายามช่วยกันนำรางออกมา แต่ก็ไม่สามารถเอาออกมาได้ ต้องนำรถแม็คโครยกหัวรถพ่วง สุดท้ายก็สามารถนำออกมาได้ สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้รู้สึกตกใจมาก และสลด เพราะผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นแค่หญิงสาววัยรุ่นกับเด็กหญิงเอง
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า รถพ่วงบรรทุกหินเต็มคันกำลังขับไปทางนราธิวาสเพื่อไปส่งหิน เมื่อถึงที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน มีรถยนต์ขับมาทางนราธิวาส และกำลังเข้ายูเทริน คาดว่าจะขับเข้าทางโทแยกทางเอกทางขวารูปตัววาย บริเวณหน้า บขส.ปัตตานี ผู้ขับรถยนต์คาดว่าพ้น ปรากฏว่ารถพ่วงได้กดแตรมาแต่ไกล และทำการเบรกรถ แต่เบรกไม่อยู่ ทำให้พุ่งชนรถยนต์ดังกล่าว ก่อนลากข้ามเกาะกลาง ไปยังถนนสวนเลน และลากตกลงไปในร่องเกาะกลาง เป็นระยะทางประมาน 100 เมตร ทำให้รถพ่วงเกยทับอยู่กับรถยนต์ ด้านพลเมืองดีเร่งช่วยเหลือเด็กสาววัย 10 ปีที่ติดอยู่ในรถยนต์ แต่ก็ไม่สามารถนำร่างออกมาได้ ส่วนผู้ขับเป็นพี่สาวก็ตกใจและร้องให้อยู่ข้างๆรถ ชาวบ้านแถวนั้นจึงพยามกันไม่ให้เข้ามาดูสภาพน้อง ส่วนผู้ขับขี่รถสิบล้อพ่วงก็อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่โดยดี
นายเชาวฤทธิ์ บุญช่วย ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ และทำการเข้าช่วยเหลือ กล่าวว่า รถพ่วงขับตรงมาปกติ ความเร็วประมาน 60-70 กม/ชม. แต่มีรถยนต์ไม่แน่ใจว่าจะเข้า บขส.หรือ ข้ามเลนเข้าไปเส้นทางเข้าหมู่บ้าน ทำให้รถพ่วงเบรกไม่ทัน ก็เลยชนเต็มๆและลากไปเข้าร่องกลางถนน สาเหตุที่ลากยาวอาจะเป็นเพราะว่าเมื่อรถพ่วงชนแล้วพวงมาลัยอาจจะควบคุมไม่อยู่ ช่วงนั้นตนเห็นก็เลยรีบเข้าไปช่วยผู้บาดเจ็บ ทั้ง 2 ราย เป็นผู้หญิง 2 คน อีกคนอยู่ข้างนอกแล้ว ส่วนเด็กหญิงติดอยู่ในรถ อาการสาหัส ทุกคนก็พยายามช่วยกันนำรางออกมา แต่ก็ไม่สามารถเอาออกมาได้ ต้องนำรถแม็คโครยกหัวรถพ่วง สุดท้ายก็สามารถนำออกมาได้ สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้รู้สึกตกใจมาก และสลด เพราะผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นแค่หญิงสาววัยรุ่นกับเด็กหญิงเอง