เงินนับล้าน ถูกแก๊งค์ตีนแมวบุกงัดฉกหายไปจากกุฏิพระสงฆ์วัดสนามช้างนาน 2 เดือนพร้อมพระเครื่อง และพระบูชายุคเก่าแก่หลวงพ่อโสธรยุค 2497 มีมูลค่าสูงเกินกว่าจะประเมินได้นับล้านบาท ทำชาวบ้านกว่า 50 คนข้องใจรวมกลุ่มตั้งป้อมเคลื่อนไหวทวงถามต่อทาง จนท. ขณะ ผกก.บางคล้า รุดแจงด้วยตนเอง อ้างผลการตรวจอีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝงเพิ่งได้รับกลับมาเมื่อวันวาน ทั้งยังไม่ตรงกันกับผู้ต้องสงสัยที่เคยเข้าไปตรวจค้นเพื่อควานหาตัวมาลงโทษ
วันที่ 26 พ.ย.64 เวลา 10.00 น. ที่บริเวณด้านหน้ากุฎิพระชัยรัตน์ ธมฺมรตโน อายุ 45 ปี พรรษา 24 รักษาการณ์เจ้าอาวาสวัดสนามช้าง ตั้งอยู่เลขที่ 73 ม.4 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีชาวบ้านจำนวนกว่า 50 คน ออกมารวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ออกมาชี้แจงถึงความคืบหน้าของคดี กรณีมีคนร้ายบุกเข้ามางัดกุฏิพระและโจรกรรมทรัพย์สินเป็นเงินเก็บของพระสงฆ์ไปจำนวนกว่า 1 ล้านบาท ขณะรับกิจนิมนต์ออกไปฉันเพล
พร้อมด้วยพระเครื่องและพระบูชา ซึ่งมีความเก่าแก่และมีมูลค่าสูง เช่น พระพุทธรูปบูชาหลวงพ่อโสธรยุค พ.ศ.2497 ไปตั้งแต่เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 19 ก.ย.64 แต่ยังไม่มีความคืบหน้าทางคดีในการติดตามจับกุมตัวคนร้าย ทั้งที่บริเวณทางเข้าวัดมีกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพของคนร้ายเอาไว้ได้อย่างชัดเจนถึง 3 จุด โดยชาวบ้านหวั่นเกรงว่าคดีอาจจะเงียบหายไป
ขณะที่คนร้ายยังคงลอยนวลและอาจจะหวนกลับเข้ามาก่อเหตุโจรกรรมทรัพย์สินหรืออาจทำร้ายพระสงฆ์และชาวบ้านเพื่อชิงทรัพย์ในพื้นที่ได้อีก จากนั้นได้มี พ.ต.อ.พรชัย กิตติชญาน์ธร ผกก. สภ.บางคล้า พ.ต.ท.เดชฤทธิ์ ศรีคชา พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เดินทางลงพื้นที่มาพบกับกลุ่มชาวบ้าน เพื่อชี้แจงถึงความคืบหน้าในทางคดีที่เกิดขึ้น
โดย พ.ต.อ.พรชัย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนออกหาข่าวเพื่อแกะรอยคนร้าย จนทราบถึงเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย ที่ไปสิ้นสุดลงยังในพื้นที่บ้านอ่าวช้างไล่ ม.5 ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา และได้เข้าทำการตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องสงสัยแล้ว พร้อมกับเก็บหลักฐานมาทำการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์
อีกทั้งผลการตรวจลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอของคนร้ายนั้น ต้องส่งไปตรวจพิสูจน์ยังภายนอกหน่วย และเพิ่งถูกส่งกลับมาถึงเมื่อวานนี้ (25 พ.ย.64) แต่กลับไม่ตรงกันกับดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝงของผู้ต้องสงสัย ที่ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้เข้าไปทำการเก็บรวบรวมมาจากการแกะรอยค้นหามาได้ ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่เก็บมาได้นั้น แม้จะเป็นเวลากลางวัน ที่เห็นรูปพรรณลักษณะของคนร้ายและยานพาหนะที่ค่อนข้างชัดเจน แต่รถไม่ได้ติดแผ่นป้ายทะเบียนจึงยากที่จะชี้ชัดไปจนถึงตัวคนร้ายได้
หลังจากนี้จะได้ให้ทางฝ่ายสืบสวนเร่งทำการแกะรอยคนร้ายไปตามเส้นทางต่างๆ อีกครั้งให้กว้างขึ้น โดยเฉพาะจากกล้องวงจรปิดตามรายทางที่คาดว่าจะเป็นเส้นทางในการหลบหนีของคนร้าย เพื่อหาตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป โดยที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ได้ทำงานและแจ้งถึงความคืบหน้ามายังพระชัยรัตน์ รักษาการณ์เจ้าอาวาสมาโดยตลอด แต่ชาวบ้านไม่ทราบ
อีกทั้งพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุยังต้องส่งไปตรวจพิสูจน์ ยังที่หน่วยงานอื่นภายนอก โดยที่ทาง สภ.บางคล้า ไม่สามารถที่จะไปเร่งรัดเพื่อให้ได้ผลการตรวจพิสูจน์กลับมาอย่างรวดเร็วได้ ส่วนยานพาหนะรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ขับขี่มาก่อเหตุนั้น ได้นำรถที่มีลักษณะใกล้เคียงกันกับรถของคนร้ายมาตรวจสอบทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่ตรงกันกับรถของคนร้าย พ.ต.อ.พรชัย กล่าวชี้แจงต่อชาวบ้าน