นายธนพล ประภาพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ. ปตท. หรือ PTT เปิดเผยว่า แนวโน้มในไตรมาส 4/64 คาดว่าจะฟื้นตัวได้ดีโดยแนวโน้มธุรกิจก๊าซธรรมชาติคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น 20-25% ตามราคาทิศทางน้ำมันเตาอ้างอิงในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น และความต้องการใช้ก๊าซที่เพิ่มขึ้น รวมถึงราคา LNG ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาพลังงานในตลาดโลกด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งนี้บริษัทฯมั่นใจว่ารายได้ในปี 64-65 จะเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยจะมาจากธุรกิจเดิม และการขยายการลงทุนไปยังธุรกิจใหม่ทั้ง future energy และ beyond energy โดยจะมี Renewable ที่ลงทุนในปีนี้และปีหน้า ส่วน EV ที่ JV ร่วมทุนกับ Foxconn ก็จะมีการประกาศตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ในช่วงกลางปี 65 ซึ่งหาก FID ได้ จะจัดตั้งสร้างโรงงานผลิตตัวแพลตฟอร์มของรถไฟฟ้า โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 66 ซึ่งมีกำลังการผลิต 50,000 คัน และทยอยปรับเพิ่มขึ้นเป็น 150,000 คันในปี 73 นายธนพล กล่าวว่า สำหรับกลุ่มธุรกิจไฟฟ้า คาดว่าจะมีความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศที่ฟื้นตัวตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่วนธุรกิจกลุ่ม New Energy ตัวอรุณพลัส Arun+ ที่ดำเนินธุรกิจ EV Charger จะมีการติดตั้ง Charger เพิ่มขึ้นประมาณ 1,350 ยูนิต และ OR ตั้งเป้าขยาย EV Charger 200 สถานีเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่จะมี EV Charger ในสถานีบริการ 300 สถานีในปี 65 นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ สำหรับการใช้สกุลเงินคริปโตเคอร์เรนซีในการชำระค่าสินค้า แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของภาครัฐด้วยซึ่งจะต้องไปพิจารณาอย่างรอบคอบ