กมธ.ป.ป.ช. เดินหน้าตรวจสอบปมผู้พิพากษาไทย เอี่ยวรับสินบนโตโยต้า พบข้อสงสัยตั้งสำนักกฎหมายไม่มีชื่อเสียงเข้ามาทำคดี ย้ำไม่มีธง พร้อมหาความจริงให้ปรากฎ วันที่ 25 พ.ย.64 เวลา 13.45 น. ที่รัฐสภา นายธีรัจชัย พันธุมาส ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ(ป.ป.ช.) แถลงความคืบหน้ากรณีการจ่ายสินบนของบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป สาขาประเทศไทยให้แก่ผู้พิพากษา และเจ้าหน้าที่รัฐของไทยเพื่ออำนวยความสะดวกในการเลี่ยงภาษี ว่า ทางกมธ.ฯได้เชิญบุคคลหลากหลายเข้ามาให้ข้อมูล พบข้อสงสัยว่ามีความผิดปกติในการคัดเลือกสำนักงานกฎหมายมาทำคดีเกี่ยวกับภาษี โดยบริษัทโตโยต้าฯ ได้ว่าจ้างสำนักงานกฎหมายอันนานนท์ด้วยเงินว่าจ้างที่สูงหลักร้อยล้านบาท ขณะที่สำนักงานกฎหมายที่มีชื่อเสียงโดยเฉพาะทางด้านคดีภาษี เช่น สำนักกฎหมายราชาแอนด์ทรานส์ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี ที่ปรึกษาด้านกฎหมายติลลิกีแอนด์กิบบินส์ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการด้านกฎหมาย แต่ไม่ได้รับมอบหมายให้ทำคดีหลัก จึงเป็นข้อสงสัยว่าเหตุใดจึงไปตั้งสำนักงานกฎหมายที่ไม่มีชื่อเสียงทางด้านคดีเข้ามา ซึ่งมีมูลเหตุมากมายที่ตรวจสอบพบแต่ยังเปิดเผยไม่ได้ นายธีรัจชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบบริษัทโตโยต้าสาขาใหญ่ที่ได้ว่าจ้างสำนักงานกฎหมายวิลเมอร์เฮล ดำเนินการสอบสวนภายในของบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทย จำกัด ช่วงระหว่างปลายเดือนสิงหาคม -พฤศจิกายน 2562 โดยทำการตรวจสอบภายในประเทศ และเชิญบุคคลต่างๆในประเทศไทยไปให้ข้อมูลที่ประเทศญี่ปุ่น คือ เจ้าหน้าที่ทุกระดับที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหลังตรวจสอบช่วงเดือนธันวาคม 62-มกราคม 63 ได้มีคำสั่งพักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย 6 คน และแจ้งยุติการจ้างงานสำนักกฎหมายอันนานนท์ ซึ่งจุดที่น่าสังเกตคือมีกระบวนการที่น่าสงสัยหรือไม่ถึงบริษัทโตโยต้า สาขาใหญ่ ได้มีการกดดันและสั่งพักงานนักกฎหมาย 6 คน และเลิกจ้างสำนักกฎหมายอันนานนท์ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ถือเป็นความผิดปกติในการบริหารของบริษัทโตโยต้า ประเทศไทย เพราะบริษัทโตโยต้าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ ต้องมีการบริหารที่มีมาตรฐานและการปฏิบัติธรรมาภิบาลที่ดี นายธีรัจชัย กล่าวต่ออีกว่า กมธ.ฯ ได้มีการเชิญกระทรวงการต่างประเทศ มาชี้แจงเพื่อขอให้ช่วยประสานไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาในการขอข้อมูลหลักฐานประกอบการพิจารณา เช่น กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ สำนักงานตลาดหลักทรัพย์ และข้อมูลจากวิลเมอร์เฮล เป็นต้น ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งว่า สำนักงานตลาดหลักทรัพย์ สหรัฐอเมริกา และกระทรวงยุติธรรม อยู่ระหว่างการสอบสวน จึงไม่สามารถประสานงานให้ข้อมูลได้ แต่ในส่วนอื่นๆ เช่น สำนักงานกฎหมายหรือทนายความ ได้ขอให้กมธ.ฯทำหนังสือแจ้งไป และกระทรวงการต่างประเทศยินดีประสานข้อมูลต่างๆเพื่อให้กมธ.ติดต่อประสานงานได้เอง "กมธ.ป.ป.ช.ได้ดำเนินการตรวจสอบคดีนี้ควบคู่กับสำนักงานศาลยุติธรรม ที่จะหาความจริงให้ปรากฎกรณีกล่าวหาแบบนี้ว่าผู้พิพากษาระดับสูง 3 คนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงหรือไม่ ถ้าจริงต้องหาทางดำเนินการให้เหมาะสม ถ้าไม่จริงก็จะต้องดำนินการแก้ไขข้อกล่าวหาที่เสื่อมเสียแบบนี้ เพราะความเชื่อถือกระบวนการยุติธรรมเป็นกระบวนการสุดท้ายที่ประชาชนจะได้รับความเชื่อมั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรมกรณีที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น ถ้าเป็นจริงจะเป็นการสั่นสะเทือนวงการตุลาการอย่างมาก ยืนยันว่าเรื่องนี้กมธ.ฯไม่ได้ตั้งธงไว้ ดำเนินการตรวจสอบตามข้อมูลที่ปรากฎ เชื่อว่าสำนักงานศาลยุติธรรมจะมีการตรวจสอบเข้มข้นเหมือนเราเช่นกัน"นายธีรัจชัย กล่าว