จากข้อมูลล่าสุดจาก อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอ เอส ผู้ให้บริการความช่วยเหลือด้านสุขภาพและความมั่นคงปลอดภัยชั้นนำของโลก ที่มีลูกค้า 12,000 รายทั่วโลก ได้เปิดเผยถึงตัวเลขการเดินทางเพื่อธุรกิจทั่วโลกเพิ่มขึ้น 4 เท่าและการเดินทางภายในประเทศตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 25641 เพิ่มขึ้น 7 เท่า อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ความซับซ้อนในการเดินทางเพิ่มมากขึ้น ทั้งกฎข้อบังคับการเดินทางที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ความเสี่ยงด้านสุขภาพและความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้น ย่อมหมายถึงการเดินทางในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะต้องอพยพเคลื่อนย้ายมากขึ้นถึง 9 เท่า ทั้งนี้การกลับมาเดินทางอย่างปลอดภัยตลอดช่วงที่มีแพร่ระบาดในปีที่ผ่านมาพบว่ามีจำนวนเคสเพิ่มขึ้น 60% ต่อการเดินทาง 100 ครั้ง และเหตุการณ์ด้านความมั่นคงปลอดภัยมีความรุนแรงสูงเพิ่มขึ้น 80% ถึงแม้ยังมีความไม่แน่นอนอยู่บ้าง แต่อนาคตของการเดินทางหมายถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่กำลังเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมการบิน การบริการ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยว หลักสามประการในการกลับมาเดินทางต่ออย่างปลอดภัยท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ได้แก่ 1. ปกป้องและดูแลผู้เดินทาง 2.ปกป้องธุรกิจ 3. ปฏิบัติตามกฎหมาย โดย นพ. จามร เงินชารี ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ จากบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากผลการศึกษาพบว่า การเดินทางมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้เกิดการอพยพเคลื่อนย้ายทางการแพทย์มากขึ้นถึง 9 เท่า ดังนั้น ผู้บริหารจำเป็นต้องทบทวนนโยบายการเดินทางของบริษัทและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในประเทศต่าง ๆ เพื่อลดความเสี่ยงให้กับพนักงาน นโยบายการเดินทางควรรวมถึงการส่งเสริมด้านสุขภาพจิตและร่างกาย การตรวจโควิด-19 และกระบวนการกักตัวสำหรับผู้เดินทาง การให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ทั้งในเรื่องความเสี่ยงของสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน และโครงสร้างพื้นฐานของการรักษาพยาบาลในจุดหมายปลายทางที่เดินทางไปถึง ขณะที่นายสราวุธ ธัมจุล ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและผู้จัดการฝ่ายความปลอดภัย ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส กล่าวว่า ความจริงใหม่ของการเดินทางทำให้ผู้บริหารจำเป็นต้องพิจารณาถึงจำนวนของพนักงานที่ได้รับมอบหมายให้เดินทางและผู้ที่อยู่ในความดูแล รวมทั้งให้การประเมินความเสี่ยงส่วนบุคคล ตั้งแต่การเข้าถึงการรักษาพยาบาลไปจนถึงการพบแพทย์แบบระยะไกล การรักษาความปลอดภัย หรือการส่งเสริมสุขภาพจิต บริษัทต่าง ๆ จำเป็นต้องรับผิดชอบในการดูแลพนักงาน โดยสื่อสารให้ชัดเจนถึงความเสี่ยงและมาตรการบรรเทาผลกระทบต่าง ๆ ให้พนักงานทราบ และให้การสนับสนุนด้านสุขภาพร่างกาย จิตใจ และความมั่นคงปลอดภัย เมื่อมีเหตุการณ์ใด ๆ เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางภายในประเทศหรือระหว่างประเทศ นั่นหมายถึงการติดตามสถานการณ์และข้อจำกัดในการเดินทางของท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ประเมินสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงปลอดภัย และขีดความสามารถของการรักษาพยาบาลของจุดหมายปลายทางที่เดินทางไป การเดินทางอย่างปลอดภัยเริ่มต้นด้วยการได้รับข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับจุดหมายปลายทาง ที่ถูกต้องแม่นยำก่อนออกเดินทาง และต้องใช้ทั้งความยืดหยุ่นและการปรับตัว ซึ่งหมายถึงการวางสถานการณ์ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเป็นแนวทางในกระบวนการตัดสินใจเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงตามแผนการตอบสนองที่วางแผนไว้อย่างละเอียด