เมื่อวันที่ 20 พ.ย.64 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. ร.ต.อ.เมธานันท์ ไกรอานนท์ รอง สว.กก.2 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ร่วมกันจับกุม นายชโลรถ หรือโอม (สงวนนามสกุล) ตามหมายจับของศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 364/2564 ลงวันที่ 20 ต.ค.64 ในข้อหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือร่วมกันรับของโจร, ได้ที่บริเวณบ้านพัก ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายสุภโชค อายุ 29 ปี และ น.ส.รัญชนา อายุ 23 ปี ชาว ม.5 ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่าได้ถูกมิจฉาชีพเป็นชาย 2 ราย หลอกเชิดโทรศัพท์มือถือไป โดยมีกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้ เหตุเกิดที่บริเวณหน้าตลาดนัดจัตุจักร ต.ห้วยกระปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา นายสุภโชค และ น.ส.รัญชนา ได้ประกาศขายโทรศัพท์มือถือผ่านเฟซบุ๊ก โดยประกาศขายในราคา 30,300 บาท ต่อมาได้มีคนร้ายติดต่อมาทำทีขอซื้อโทรศัพท์มือถือ และได้มีการนัดหมายส่งสินค้ากันที่บริเวณตลาดนัดจัตุจักร ต.ห้วยกระปิ เมื่อคนร้ายมาถึงที่นัดหมายได้ขอตรวจเช็คโทรศัพท์มือถือ ซึ่งในระหว่างนั้นได้มีเพื่อนของคนร้ายขับขี่รถจยย. มาเอาโทรศัพท์มือถือเครื่องดังกล่าวไป
คนร้ายได้ทำทีเป็นโอนเงินจำนวน 30,300 บาท เข้าบัญชีผู้เสียหายแต่ไม่ได้โอนเงินเข้าแต่อย่างใดทำเพียงแคปภาพหน้าจอไว้ให้ผู้เสียหายดูเท่านั้น ซึ่งเมื่อผู้เสียหายตรวจสอบเงินในบัญชีธนาคารแล้วพบว่าไม่มียอดเงินดังกล่าวเข้ามาคนร้ายจึงทำทีเป็นโวยวายว่าได้โอนเงินเข้าไปแล้ว และขอยกเลิกการซื้อขายพร้อมกับส่งถุงโทรศัพท์มือถือคืนมาให้กับผู้เสียหาย ก่อนจะรีบขับขี่รถจยย.หลบหนีไป ซึ่งเมื่อผู้เสียหายตรวจสอบของภายในถุง กลับไม่พบโทรศัพท์มือถือ ผู้เสียหายจึงได้ไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ชุดจับกุมได้สืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี จึงนำกำลังเข้าจับกุมได้ที่บริเวณบ้านพัก ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เสม็ด ดำเนินคดี ตรวจสอบประวัตพบว่า นายชโลรถ ยังมีหมายจับติดตัวอีก 2 หมายจับ 1.หมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 357/2564 ลงวันที่ 13 ก.ย.64 2.หมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ381/2564 ลงวันที่ 21ก.ย.64 ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือว่ารับของโจร สอบถามผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายสุภโชค อายุ 29 ปี และ น.ส.รัญชนา อายุ 23 ปี ชาว ม.5 ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่าได้ถูกมิจฉาชีพเป็นชาย 2 ราย หลอกเชิดโทรศัพท์มือถือไป โดยมีกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้ เหตุเกิดที่บริเวณหน้าตลาดนัดจัตุจักร ต.ห้วยกระปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา นายสุภโชค และ น.ส.รัญชนา ได้ประกาศขายโทรศัพท์มือถือผ่านเฟซบุ๊ก โดยประกาศขายในราคา 30,300 บาท ต่อมาได้มีคนร้ายติดต่อมาทำทีขอซื้อโทรศัพท์มือถือ และได้มีการนัดหมายส่งสินค้ากันที่บริเวณตลาดนัดจัตุจักร ต.ห้วยกระปิ เมื่อคนร้ายมาถึงที่นัดหมายได้ขอตรวจเช็คโทรศัพท์มือถือ ซึ่งในระหว่างนั้นได้มีเพื่อนของคนร้ายขับขี่รถจยย. มาเอาโทรศัพท์มือถือเครื่องดังกล่าวไป
คนร้ายได้ทำทีเป็นโอนเงินจำนวน 30,300 บาท เข้าบัญชีผู้เสียหายแต่ไม่ได้โอนเงินเข้าแต่อย่างใดทำเพียงแคปภาพหน้าจอไว้ให้ผู้เสียหายดูเท่านั้น ซึ่งเมื่อผู้เสียหายตรวจสอบเงินในบัญชีธนาคารแล้วพบว่าไม่มียอดเงินดังกล่าวเข้ามาคนร้ายจึงทำทีเป็นโวยวายว่าได้โอนเงินเข้าไปแล้ว และขอยกเลิกการซื้อขายพร้อมกับส่งถุงโทรศัพท์มือถือคืนมาให้กับผู้เสียหาย ก่อนจะรีบขับขี่รถจยย.หลบหนีไป ซึ่งเมื่อผู้เสียหายตรวจสอบของภายในถุง กลับไม่พบโทรศัพท์มือถือ ผู้เสียหายจึงได้ไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ชุดจับกุมได้สืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี จึงนำกำลังเข้าจับกุมได้ที่บริเวณบ้านพัก ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เสม็ด ดำเนินคดี ตรวจสอบประวัตพบว่า นายชโลรถ ยังมีหมายจับติดตัวอีก 2 หมายจับ 1.หมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 357/2564 ลงวันที่ 13 ก.ย.64 2.หมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ381/2564 ลงวันที่ 21ก.ย.64 ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือว่ารับของโจร สอบถามผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา