คอลัมน์ ยุทธจักรยานยนต์ รีบชิงเปิดตัวกันตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา สำหรับเชฟโรเลต โคโลราโด ใหม่ เพื่อไม่ให้ช้ากว่าการเปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศบราซิลมากนัก ทำให้แฟนๆ ชาวไทยได้รับรู้ว่าเชฟเลตยังคงยืนหยัดในการทำตลาดที่เมืองไทยอยู่เหมือนเดิม การปรับเปลี่ยนของเชฟโรเลตใหม่ ขยับเข้าหาความเป็นรถกระบะอเมริกันมากขึ้น รวมถึงให้เกิดความแตกต่างไปจากคู่แฝดที่น่าจะครองแชมป์รถกระบะในปีนี้ได้อย่างอีซูซุ กว่าจะออกมาเป็นโคโลราโดใหม่ ทางเชฟโรเลตก็ได้ทำการเก็บข้อมูลจากลูกค้าทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย เพราะกลุ่มลูกค้าของเชฟโรเลตไม่ได้มีแค่เมืองไทย ยังคงมีฐานใหม่อย่างบราซิลและออสเตรเลียอีกด้วย รูปโฉมใหม่จะเน้นความเป็นรถกระบะอเมริกันสไตล์ มีพละกำลังสูงสำหรับการบรรทุกและใช้งานแบบอเนกประสงค์ ที่ขาดไม่ได้คือเทคโนโลยีที่ไม่ได้น้อยหน้าไปจากคู่แข่งในตลาด ปรับหน้าตาให้ลู่ลม สำหรับการส่งมอบรถก็จะเริ่มขึ้นในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ โดยมีรุ่นท็อปสุดขายกันในราคา 1.068 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ไม่แพงไปกว่าคู่แข่ง ทั้งๆ ที่ใส่เทคโนโลยีเข้าไปมากมายก็ตาม สำหรับการปรับเปลี่ยนโคโรลาโดใหม่ เมื่อมองรอบๆ คัน จะเห็นความลงตัวมากขึ้น ยากที่จะหาข้อผิดพลาด เป็นการใส่ใจในรายละเอียดมากขึ้น โดยทำการเปลี่ยนแปลงในส่วนของฝากระโปรงหน้าและกระจังหน้าใหม่ หากใครชอบความแตกต่างก็ยังมีชุดแต่ง ที่ทางค่ายนี้เล็งเห็นความสำคัญจากการนำรถแต่งมาโชว์ในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา ด้วยรถกระบะกระจังหน้าสีดำ โลโก้สีดำ อันเป็นชุดแต่งมาตรฐานโรงงานที่ทางเชฟโรเลตทำออกมาขายด้วย ฝากระโปรงหน้าถูกออกแบบให้ต่างออกไปจากเดิม โดยกดตรงกลางลงในสไตล์ฝากระโปรงหน้าของรถซูเปอร์ชาร์จ ที่เจาะช่องระบายความร้อนภายหลังได้ ออกเดินทางจากในเมือง ในส่วนของไฟหน้าจะมีไฟส่องสว่างในเวลากลางวันที่ไม่ได้นำแค่หลอดแอลอีดีมาติดตั้งไว้ แต่จะทำออกมาเป็นเส้นสายสไตล์รถยนต์หรูที่นำมาใช้กัน เป็นการออกแบบด้านหน้าที่เน้นความลู่ลมสำหรับความประหยัดน้ำมัน มีการพัฒนาไปอีกขั้นกับการเลือกล้อแม็กซ์ขนาด 18 นิ้วมาใช้ ซึ่งจะมีลายที่แตกต่างกันระหว่างรุ่นไฮคันทรีกับแอลทีแซด แต่จะมีชุดวัดแรงดันลมยางติดตั้งเอาไว้ เพื่อแสดงผลทางหน้าจอให้ทางผู้ขับขี่ได้รับทราบ กำลังพอในการลากจูง ในช่วงแรกอุปกรณ์จะติดรวมกันกับจุ๊ปเติมลมยาง จึงต้องระวังเวลาช่างถอดเปลี่ยนยาง ที่ชอบดึงจุ๊ปเติมลมออก อาจจะทำให้อุปกรณ์เสียหายได้ ในอนาคตก็จะมีการแยกชิ้นส่วนเพื่อลดปัญหาในจุดนี้ ลมยางจะตั้งไว้ที่ 35 ปอนด์/ตารางนิ้ว สำหรับรถเปล่าและ 38 ปอนด์/ตารางนิ้ว เมื่อบรรทุก หากแรงดันลมยางต่ำกว่า 28 ปอนด์ / ตารางนิ้ว สัญญาณจะเตือนเพื่อความปลอดภัย ตอนสลับยางก็จะต้องใช้ศูนย์จัดการให้จะได้ปรับเปลี่ยนข้อมูลลมยางแต่ละเส้นได้ถูกต้อง ลุยได้หายห่วง อุปกรณ์ชิ้นนี้มีขนาดเล็ก ใช้แบตเตอรี่แบบกระดุม ซีลด้วยอีพ็อกซี่กันการหลุดหาย อายุการใช้งาน 5 ปีขึ้นไป ส่วนรถที่มีอายุการใช้งานน้อยๆ ก็อาจจะทำได้ถึง 10 ปี โดยมีราคาต่อชุดประมาณ 2,000 บาท สำหรับความแตกต่างของรถรุ่นนี้กับค่ายอื่น จะเป็นเรื่องของการสตาร์ทรถที่ยังคงใช้การเสียบกุญแจแทนที่จะเป็นการกดปุ่มสตาร์ท แต่ความแตกต่างอยู่ที่กุญแจรีโมทสามารถกดสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ เพื่อให้รถทำการปรับอุณหภูมิภายในให้เย็นก่อนที่จะเข้าไปนั่ง ถนนแบบนี้ขับสองไปได้สบาย จะมีช่วงทำงานประมาณ 10 นาที หากไม่เข้าไปนั่งในรถเครื่องยนต์จะดับ แต่ก็ยังคงกดเพิ่มได้อีก 10 นาที โดยรถยังคงล็อกอยู่ ไม่สามารถเปิดประตูเข้าไปนั่งได้ ถ้าไม่ใช่รีโมท หากนำกุญแจผิดดอกเข้าไปเสียบช่องสตาร์ทเครื่องยนต์ก็จะดับทันที เข้าไปนั่งภายในก็จะพบกับแผงคอนโซลสไตล์รถกระบะอเมริกันต่างไปจากอีซูซุ โดยเพิ่มวัสดุหุ้มใหม่ ให้มีความนุ่มนวลในบางจุด โดยเฉพาะที่ต้องโดนผิวสัมผัส ส่วนที่เป็นพลาสติกก็จะเลือกเกรดดี ๆ มาใช้งาน ทำให้ภายในมีเกรดดีขึ้น รุ่นที่ได้ทดลองขับจะเป็น 4 ประตูตัวท็อป ที่มีโรลบาร์แต่งมาพร้อม เบาะนั่งจึงหุ้มหนัง สามารถปรับเบาะด้วยไฟฟ้าฝั่งคนขับจะเป็นเบาะที่นั่งกว้างสบายไม่ลื่นแม้จะเป็นคนตัวอ้วนๆ ก็ตาม ระบบช่วยลงทางลาดชันช่วยได้เยอะ ชุดหน้าจอจะสามารถเชื่อมต่อแอปเปิ้ลและเอ็นดรอยด์ได้ แต่ช่วงแรกจะรองรับของแอปเปิ้ลก่อน ซึ่งจะเชื่อมต่อหน้าจอนั้นได้ทั้งระบบ อินโฟเทนเมนท์ ที่ใช้เจนเนอเรชั่นใหม่ของมายลิงค์ เมื่อรวมกับความเงียบของห้องโดยสาร จนแทบจะไม่ได้ยินเสียงจากข้างนอก ก็ทำให้เพลิดเพลินกับเสียงเพลงได้ดี ใส่โรลบาร์จากโรงงาน ในรถยนต์รุ่นนี้จะทำการปรับเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ให้แรงขึ้นพอๆ กับ 2.8 ลิตร จึงไม่ต้องพึ่งพาเครื่องยนต์ใหญ่อีกต่อไป แต่รุ่นนั้นยังมีการส่งออกอยู่ เครื่องยนต์ใหม่ให้พละกำลังดีขึ้น โดยเฉพาะช่วงกลางๆ ที่ต้องใช้เร่งแซงอยู่บ่อยๆ อีกจุดหนึ่งที่ปรับปรุงได้ดี คือการลดค่าเคของสปริงลงเล็กน้อย ทำให้ได้ความนุ่มนวลดีขึ้น เหมาะกับสภาพของถนนเมืองไทยจนแทบจะไม่รู้สึกถึงหลุมหรือคลื่นบนถนนที่ช่วงล่างถูกปรับใหม่ สามารถซับแรงกระแทกได้เกือบทั้งหมด