“พระบารมีปกเกล้าฯ” ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ดร.สุทิน ลี้ปิยะชาติ นับตั้งแต่วันที่ทรงขึ้นครองราชย์เป็นต้นมา เป็นเวลากว่า ๗๐ ปีแล้ว ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรชาวไทย และทรงปฏิบัติพระราชภารกิจ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนมาอย่างต่อเนื่องจวบจนถึงปัจจุบันท่านผู้อ่านที่เคารพครับ วันนี้ ผมขอเสนอสาระสำคัญเกี่ยวกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ก่อตั้งขึ้นที่ ม.๔ ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ดังนี้ ประวัติความเป็นมา ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ ได้เริ่มก่อตั้งตามพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อคราวที่เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดพระบรมราชานุเสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๒๔ โดยทรงมีพระราชดำรัส พระราชทานแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ความตอนหนึ่งว่า ดังนี้ “...ให้พิจารณาพื้นที่ที่เหมาะสมจัดทำโครงการพัฒนาอาชีพการประมงและการเกษตรในเขตที่ดินชายฝั่งทะเล จังหวัดจันทบุรี...” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเงินที่ราษฎรจังหวัดจันทบุรีพร้อมใจกันทูลเกล้าฯ ถวายโดยเสด็จพระราชกุศล ในโอกาสดังกล่าวเป็นทุนเริ่มดำเนินการด้วย ต่อมาเมื่อวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๒๔ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริเพิ่มเติม ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ความตอนหนึ่งว่า “...ให้พิจารณาจัดหาพื้นที่ป่าสงวนเสื่อมโทรมหรือพื้นที่สาธารณประโยชน์เพื่อจัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนา เช่นเดียวกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน ให้เป็นศูนย์ศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาในเขตที่ดินชายทะเล...” จังหวัดจันทบุรีได้ร่วมหารือกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องและพิจารณาความเหมาะสมจึงกำหนดพื้นที่ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เป็นพื้นที่จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ เป็นหน่วยงานที่ดำเนินการศึกษาสาธิต และการพัฒนาในเขตที่ดินชายทะเล โดยวิธีการผสมผสานความรู้อันหลากหลายของแต่ละหน่วยงานเพื่อวางแผนพัฒนาการจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ให้เหมาะสมและยั่งยืนตลอดไป วัตถุประสงค์ของศูนย์ฯ : ครอบคลุม ๖ ประการ ได้แก่ (๑) เพื่อศึกษารูปแบบการจัดการทรัพยากรชายฝั่งอย่างยั่งยืน (๒) เป็นศูนย์กลางในการอบรมเผยแพร่ ผลการศึกษาการจัดการทรัพยากรชายฝั่ง ให้แก่ส่วนราชการและภาคเอกชนทั่วไป (๓) ยกระดับฐานะความเป็นอยู่ อาชีพของราษฎรบริเวณอ่าวคุ้งประเบนและพื้นที่ใกล้เคียง โดยมุ่งเน้นพัฒนาช่วยเหลือราษฎรที่มีฐานะยากจน (๔) พัฒนาการประมงและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อเพิ่มผลผลิตของประเทศ ตลอดจนพัฒนากิจกรรมอื่นๆ แบบบูรณาการควบคู่ไปด้วย (๕) อนุรักษ์สภาพแวดล้อมและดุลยภาพทางธรรมชาติให้คงลักษณะของพื้นที่ไว้ และ (๖) ส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงพัฒนา พื้นที่ดำเนินงานและพื้นที่ขยายผลศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ : ครอบคลุม ๓๓ หมู่บ้าน ในตำบลคลองขุด ตำบลรำพัน ตำบลโขมง อำเภอท่าใหม่ และตำบลสนามไชย ตำบลกระแจะ อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรีมีพื้นที่ประมาณ ๗๑,๐๒๕ ไร่ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ พื้นที่ศูนย์กลางบริเวณอ่าวคุ้งกระเบน และพื้นที่โดยรอบ ครอบคลุมพื้นที่ ประมาณ ๔,๐๐๐ ไร่ การดำเนินกิจกรรมจะเป็นการผสมผสานระหว่างป่าไม้และประมง พื้นที่รอบนอก ได้แก่ พื้นที่ตำบลคลองขุด ตำบลรำพัน อำเภอท่าใหม่ และ ตำบลสนามไชย ตำบลกระแจะ อำเภอนายายอามซึ่งเป็นทั้งเขตเกษตรกรรม และเขตหมู่บ้านประมงตลอดแนวชายฝั่ง มีพื้นที่ประมาณ ๕๗,๐๒๕ ไร่ การดำเนินกิจกรรมมุ่งเน้นการส่งเสริมการเกษตรแบบบูรณาการ พื้นที่ขยายผล ได้แก่ พื้นที่ ตำบลรำพัน ตำบลโขมง ตำบลเสม็ดโพธิ์ศรี อำเภอท่าใหม่ และพื้นที่ใกล้เคียงศูนย์ฯ มีพื้นที่ประมาณ ๑๐,๐๐๐ ไร่ เป็นการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพที่ประสบความสำเร็จ ในศูนย์ฯ สู่พื้นที่โดยรอบ ผลการดำเนินโครงการของศูนย์ฯ ในด้านการจัดการทรัพยากรชายฝั่ง : ในช่วงที่ผ่านมา ศูนย์ฯ ได้จัดสรรพื้นที่เสื่อมโทรมหลังป่าชายเลน จำนวน ๗๒๘ ไร่ สำหรับ ๑๑๓ ครัวเรือน เข้าประกอบอาชีพการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ ส่งเสริมให้ราษฎรที่เข้าร่วมโครงการเลี้ยงกุ้งกุลาดำป้องกันมลภาวะ และรักษาสิ่งแวดล้อม โดยการสร้างบ่อเก็บตะกอนเลน และปลูกป่าชายเลนหลังแปลงนากุ้งของตนเอง ตลอดจนการให้บริการวิชาการด้านคลินิกโรคสัตว์น้ำและการวิเคราะห์คุณภาพน้ำและดิน อนุรักษ์ป่าชายเลนที่สมบูรณ์จำนวน ๑,๒๐๐ ไร่ รอบอ่าวคุ้งกระเบน และป่าบกบนเขาต่างๆ ให้คงอยู่และอุดมสมบูรณ์ตลอดไป โดยการให้ความรู้แก่ราษฎรในโครงการฯ พร้อมทั้งศึกษาวิจัยระบบนิเวศน์ป่าไม้และออกตรวจตราปราบปราม จัดสร้างสะพานทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบนยาวประมาณ ๑,๗๙๐ เมตร ลดเลี้ยวเข้าไปในป่าชายเลน เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางด้านระบบนิเวศวิทยาป่าชายเลนในรูปแบบ "พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต" แก่นักเรียน นักศึกษาและผู้สนใจทั่วไป นอกจากนี้ ศูนย์ฯ ยังได้ฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ ด้านการปลูกป่าชายเลนเพิ่มเติมทุกปี รวมพื้นที่ปลูกป่าชายเลนบริเวณอ่าวคุ้งกระเบนและหลังแปลงนากุ้ง ประมาณ ๕๑๒ ไร่ เพื่อเป็นแหล่งศึกษาด้านนิเวศน์ป่าชายเลนแก่ผู้สนใจและมุ่งหวังให้ป่าชายเลน ได้ดูดใช้ธาตุอาหารที่เกิดจากกิจกรรมการเลี้ยงกุ้งกุลาดำของโครงการฯ อนุรักษ์และจัดการหญ้าทะเลที่มีอยู่ในอ่าวคุ้งกระเบน ให้อุดมสมบูรณ์ตลอดไปเพื่อเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์ทะเลวัยอ่อนและวัยรุ่น อีกทั้งยังเป็นแหล่งที่ใช้ธาตุอาหารต่างๆที่เกิดจากกิจกรรมการเลี้ยงกุ้งกุลาดำของโครงการฯ และสร้างแปลงพ่อแม่พันธุ์หอยนางรมในอ่าวคุ้งกระเบน เพื่อให้เกิดการแพร่ขยายพันธุ์ลูกหอย นอกจากนี้ราษฎรยังสามารถเก็บลูกหอยที่เกิดขึ้นไปเลี้ยงก่อให้เกิดอาชีพเสริมรายได้ และศูนย์ฯ ได้ส่งเสริมให้ราษฎรเลี้ยงหอยนางรมแบบแขวนตามบริเวณคลองน้ำทิ้งจากบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำ รวมทั้งยังได้เพาะพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่ง ๔ ชนิด คือ กุ้งแชบ๊วย กุ้งกุลาดำ ปลากะพงขาว และปลากะรัง ปีละไม่น้อยกว่า ๒๐ ล้านตัว ปล่อยลงบริเวณป่าชายเลนและแหล่งหญ้าทะเลในอ่าวคุ้งกระเบน เพื่อเพิ่มผลผลิต และมุ่งหวังให้สัตว์น้ำวัยอ่อนที่ปล่อยเลี้ยงตัวอยู่ในอ่าวคุ้งกระเบนใช้อาหารธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ รวมทั้งมีการทำปุ๋ยหมักดินเลนนากุ้ง เป็นรูปแบบการเปลี่ยนของเสียจากการเลี้ยงกุ้งกุลาดำให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นการป้องกันมลภาวะอันเกิดจากการเลี้ยงกุ้งกุลาดำรอบอ่าวคุ้งกระเบน โดยนำดินเลนหรือสารอินทรีย์จากการเลี้ยงกุ้งกุลาดำแปรสภาพเป็นปุ๋ยหมัก ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางด้านการเกษตรได้อีกด้วย และศูนย์ฯ ยังมีการดูแลให้ความรู้ในด้านพัฒนาคุณภาพชีวิตและผลกระทบสิ่งแวดล้อมแก่ราษฎรที่อยู่ในเขตพื้นที่โครงการอย่างต่อเนื่อง ท่านผู้อ่านที่เคารพครับ ท่านที่สนใจไปทัศนศึกษาที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี สามารถติดต่อได้ที่หมายเลข ๐-๓๙๔๓-๓๒๑๖-๘ ครับ