‘เดริน ฮัดสัน’สะท้อนแผนการตลาดช่วงโควิด สร้างโฟร์พอยท์สฯ ภูเก็ตให้อยู่ในใจนักเดินทาง

ภายหลังจาก บริษัท หยี่เต้ง ภูเก็ต จำกัด ได้ตัดสินใจเปิดให้บริการโรงแรมโฟร์พอยท์ส บาย เชอราตัน ภูเก็ต ป่าตอง บีช รีสอร์ท ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ช่วงเดือนตุลาคม 2563 โดยในระยะแรกเปิดให้บริการจำนวน 300 ห้องจากที่มี 600 ห้อง ภายใต้การบริหารของแบรนด์โฟร์พอยท์ส บาย เชอราตัน ในเครือแมริออท โดยมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าคนไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ตกค้างอยู่ในประเทศ จนถึงวันนี้ นายเดริน ฮัดสัน ผู้จัดการทั่วไป โฟร์พอยท์ส บาย เชอราตัน ภูเก็ต ป่าตอง บีช รีสอร์ท ได้มาสะท้อนแผนการตลาดที่น่าสนใจ ถึงการนำพาโรงแรมที่รับผิดชอบฝ่าวิกฤติโควิด-19 มาได้ในครั้งนี้ มุ่งเน้นทำการตลาดผ่านสื่อดิจิทัล โดย นายเดริน ฮัดสัน ผู้จัดการทั่วไป โฟร์พอยท์ส บาย เชอราตัน ภูเก็ต ป่าตอง บีช รีสอร์ท กล่าวถึง การบริหารงานในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า ความท้าทายที่พบในช่วงที่ผ่านมา คือการเปิดโรงแรมใหม่เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ในขณะนั้นมีพนักงานเพียง 92 คน สำหรับการเตรียมความพร้อม การจัดการและบริหารโรงแรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูเก็ต ด้วยห้องพักมากถึง 600 ห้อง นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคของการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ เพราะยังไม่เปิดประเทศ รวมทั้งหาดป่าตองไม่ได้เป็นจุดหมายในฝันของนักท่องเที่ยวชาวไทย ดังนั้นทางโรงแรม จึงมุ่งเน้นการทำการตลาดผ่านสื่อดิจิตัลสำหรับคนไทย สร้างการรับรู้ของโรงแรมใหม่ที่สุดหน้าหาดป่าตอง พร้อมบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เล่าเรื่องของภูเก็ตในอดีต จากการรออกแบบที่ผสมผสานความทันสมัย และกลิ่นอายในสไตล์ภูเก็ตเพอรานากันได้อย่างลงตัว รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับคุณภาพของอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะอาหารเช้า และอาหารพื้นเมือง จากวิกฤติโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ได้เห็นโอกาสทางธุรกิจที่จะนำมาพัฒนา และต่อยอดกับโรงแรมที่รับผิดชอบ คือ จุดแข็ง และโอกาสที่ได้รับการสนับสนุนมาตลอด กับชื่อเสียงของแบรนด์แมริออท รวมทั้งโปรแกรมสำหรับสมาชิกแมริออท บอนวอย และโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสมาชิก ซึ่งทำให้โรงแรมได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า รวมถึงมีผลประกอบการดีขึ้น นอกจากนี้ทางโรงแรมยังให้ความสำคัญกับตลาดคนไทย เข้าใจพฤติกรรมการท่องเที่ยว เน้นไปที่ความคุ้มค่า และความต้องการของนักท่องเที่ยวเมื่อมาเที่ยวที่ภูเก็ตเป็นหลัก ปรับการทำงานรับเทรนด์ที่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม นายเดริน กล่าวว่า จากวิกฤติโควิด-19 ในครั้งนี้ ทางโรงแรมได้ปรับรูปแบบเพื่อรับกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของนักท่องเที่ยว คือ จะให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยของแขกผู้เข้าพัก โดยมีมาตรฐานความสะอาดของแมริออท (Marriott International Commitment to Clean) รวมทั้งดำเนินการตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณะสุขอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ยังเตรียมความพร้อมในด้านของข้อมูล การฝึกอบรมพนักงาน เพื่อให้เข้าใจกระบวนการต่างๆ และส่งเสริมให้พนักงานรับวัคซีน 100% ในการพร้อมรับการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าที่ต้องการจองห้องพัก และให้ความช่วยเหลือลูกค้าในการจองห้องพักได้อย่างถูกต้อง อีกทั้ง ทางโรงแรมได้ทำการตลาด โดยมุ่งเจาะตลาดคนไทยตั้งแต่เปิดโรงแรมจนมาถึงเดือนกรฎาคมที่ผ่านมา ภายหลังจากประเทศไทยทยอยเปิดไปทีละขั้นตอน และตลาดต่างประเทศจะกลับมาแล้ว แต่ก็ยังคงให้ความสำคัญ และทำการตลาดกับกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย เป็นการทำตลาดแบบครอบคลุมกลุ่มลูกค้าที่สำคัญๆ ในการสร้างผลประกอบที่ดีขึ้นทุกไตรมาส โดยอยู่บนพื้นฐาน และแนวทางที่จะนำพาโรงแรมไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ ทั้งรายได้ และปริมาณการเข้าพัก ทั้งระยะสั้น-ระยะยาว ทั้งนี้ นายเดริน กล่าวว่า ได้ปรับแผนธุรกิจ เพื่อรับกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป ด้วยการทำความเข้าใจกับกลุ่มตลาด และเทรนด์ต่างๆ เพื่อนำมาปรับการทำงานให้เข้ากับพฤติกรรมของลูกค้าให้เร็วที่สุด ไม่ว่าตลาดจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับจุดยืนของโรงแรม และการบริการที่อบอุ่นแบบไทย พร้อมกับให้ความสำคัญกับสมาชิก แมริออท บอนวอย อีกด้วย