วันที่ 18 ก.ย.59 ที่ สภ.เมืองนครปฐม พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ชูนาค รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม ผกก.สภ.อ.เมืองนครปฐม พ.ต.ท.ชาติภัทร พิเนตรบูรณะรอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ต.ภูวนนท์ สมัครไทย ร.ต.อ.ณัฐพงษ์ อำไพจิตร์ สว.สส.ฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม จับกุมตัว น.ส.อภิญญา หรือขวัญ สินมาคำ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 2 ต.บ่อพลับ อ.เมือง จ.นครปฐม พร้อมด้วยของกลาง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ ไอโฟน จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ ไอโฟน 4s จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ เอไอเอส รุ่น ลาวา จำนวน 1 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Yamaha สีน้ำตาลขาว หมายเลขทะเบียน ขนฉ 315 นครปฐม(ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน) จำนวน 1 คัน ถุงยางอนามัยยี่ห้อ Faire จำนวน 1 ถุง พร้อม เงินสด1,300 บาท โดยจับกุมได้ที่ห้องพักเลขที่ 501 โรงแรมฮิปอินน์ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า พฤติการณ์การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่า ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ “Khongkwun Aphinya” โพสต์ภาพและข้อความลงบนกลุ่มเฟสบุ๊ค ชื่อกลุ่ม “รับงาน บ้านโป่ง ราชบุรี นครปฐม กาญจนบุรี และไกล้เคลียง” ว่า สนใจติดต่อ 0952734483 ขอคนพร้อมมาตอนนี้นะคะ น้องๆน่ารัก รออยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และทำการวางแผนล่อซื้อค้าประเวณี เด็กหญิง จำนวน 2 ในราคาคนละ 1,300 บาท โดยนางขวัญนำเด็กหญิง เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปีใและเด็กหญิง บี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ซ้อนรถจักรยานยต์ มาส่ง ที่ โรงแรมฮิปอินน์ ที่ห้องหมายเลข 501เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวทำการตรวจค้นและจับกุม จากการสอบสวน นางขวัญ ให้การรับสารภาพว่า ได้นำเด็กหญิง เอ และ บี (นามสมมุติ) มาค้าประเวณีจริง โดยใช้โทรศัพท์ ในการ ติดต่อกับค้าประเวณีเด็ก กับลูกค้าทั่วไปที่ติดต่อใช้บริการ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมแจ้งข้อกล่าวหา ค้ามนุษย์ นำตัวผู้ต้องหาส่งพนีกงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ดำเนินคดีต่อไป พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวอีกว่า กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อ“ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์” เป็นวาระแห่งชาติ เร่งรัดบูรณาการทำงานของทุกกระทรวง ทบวง กรม เดินหน้าขจัดอุปสรรคด้านกฎระเบียบ พร้อมดำเนินการกับผู้กระทำความผิดทั้งข้าราชการและพลเรือนอย่างเด็ดขาด ซึ่งรัฐบาลมีความจริงจัง ในการประกาศให้การป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์และสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ใครที่ยังคิดจะเอาเปรียบและหาประโยชน์ โดยมิชอบจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใด และโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เข้าไปพัวพันกับขบวนการค้ามนุษย์ หรือละเลยไม่ทำหน้าที่ "บุคคลเหล่านี้ต้องไม่มีที่ยืนในสังคมไทย"