เมื่อค่ำของวันที่ 4 พฤศจิกายน 2021 ในงานเปิดงานจัดแสดงสินค้านำเข้านานาชาติของจีนครั้งที่ 4 หรือ The 4th China International Import Expo (CIIE) ที่จัดขึ้น ณ นครเซี่ยงไฮ้ โดยมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนกล่าวสุนทรพจน์เปิดงานจัดแสดงฯ ผ่านทางวิดีโอ ซึ่งเป็นการสรุปผลสำเร็จและประสบการณ์การเปิดกว้างของจีนอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ได้รับจากองค์การการค้าโลกตลอด 20 ปีที่ผ่านมา และยังประกาศมาตรการใหม่ต่าง ๆ ที่ขยายระดับการเปิดกว้างของจีนให้ใหญ่และสูงมากยิ่งขึ้น แสดงถึงการที่จีนมีความจริงใจและรับผิดชอบในการสร้างและเปิดกว้างที่เศรษฐกิจโลกร่วมกับประเทศอื่น ๆ เพื่อเป็นแรงผลักดันใหม่ ในการส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าระหว่างประเทศและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
“ความตั้งใจของจีนในการขยายและเปิดกว้างมากขึ้นด้วยมาตรฐานระดับสูงจะไม่เปลี่ยนแปลง ความตั้งใจของจีนในการแบ่งปันโอกาสในการพัฒนาร่วมกันทั่วโลกจะไม่เปลี่ยนแปลง และจีนจะไม่เปลี่ยนแปลงปณิธานในการผลักดันให้โลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจไปสู่ทิศทางที่เปิดกว่า ครอบคลุม ทั่วถึง สมดุล และเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายมากยิ่งขึ้น” คำกล่าวนี้เป็นเสียงในงานแสดงฯที่บริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกคาดหวังไว้มากที่สุด
การเปิดกว้างเป็นเครื่องหมายอันสดใหม่ของจีนร่วมสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่จีนเข้าร่วมองค์การการค้าโลกตลอด 20 ปี จีนได้ปฏิบัติตามพันธสัญญาการเข้าร่วมภาคีอย่างรอบด้าน ขยายและเปิดกว้างทางการค้าอย่างต่อเนื่องทำให้จีนได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ซึ่งได้กระตุ้นกระแสของเศรษฐกิจโลก จีนจะทำร่วมมืออย่างไรกับนานาประเทศทั่วโลกในอนาคต? โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ประกาศว่าจีนจะ “ปกป้องลัทธิพหุภาคีนิยมที่แท้จริงอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่” “แบ่งปันโอกาสทางการค้ากับนานาประเทศอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่” “ผลักดันการเปิดประเทศในระดับสูงอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่” และ “ปกป้องผลประโยชน์ของโลกร่วมกันอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่” ด้วยความลับของการพัฒนาทางเศรษฐกิจจีนอย่างรวดเร็วตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา เพื่อส่ง “สายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิ” ไปยังเศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญกับความท้าทายมากมายภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
การขยายและเปิดกว้างทางเศรษฐกิจ ซึ่งจีนพูดจริงทำจริง เมื่อปีที่ผ่านมา จีนได้ใช้มาตรการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจที่เปิดประกาศไว้ในงานจัดแสดงสินค้านำเข้านานาชาติของจีนครั้งที่ 3 ไว้ โดยภายในงานจัดแสดงฯ ครั้งนี้ ฝ่ายจีนก็ยังคงประกาศขยายและเปิดกว้างทางเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้นต่อไป อาทิเช่น การลดรายการข้อห้ามการนำเข้าสินค้าต่างประเทศ การแก้ไขและขยายเกี่ยวกับ “รายการการส่งเสริมอุตสาหกรรมการลงทุนจากต่างประเทศ” เปิดเขตการค้าเสรีสาธิต รายการสินค้านำเข้าผ่านอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนเป็นต้น นอกจากนี้ จีนยังให้คำมั่นสัญญาว่าจะส่วนร่วมเชิงลึกในความร่วมมือระหว่างประเทศ อาทิ เศรษฐกิจดิจิทัลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำ ส่งเสริมการเข้าร่วม “ข้อตกลงความครอบคลุมและความก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนทางการค้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก” และ “ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจดิจิทัล” อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามมาตรการขยายและเปิดกว้างทางเศรษฐกิจเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการที่จีนได้ดำเนินการแบ่งปันผลประโยชน์ในการพัฒนาร่วมกันมาโดยตลอด
ปัจจุบัน จีนมีประชากรมากกว่า 1,400 ล้านคน และมีกลุ่มคนที่รายได้ปานกลางมากกว่า 400 ล้านคน แต่ละปีจีนนำเข้าสินค้าและบริการประมาณ 2.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ งานจัดแสดงแต่ละครั้งก็ยิ่งมีความครึกครื้นมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงแรงดึงดูดอันมหาศาลของตลาดจีนต่อบริษัทระดับโลก
ในปีนี้มีบริษัทเกือบ 3,000 แห่งจาก 127 ประเทศและภูมิภาคเข้าร่วมในงานดแสดงสินค้าฯครั้งนี้ และประเทศที่เข้าร่วมมาจาก 5 ทวีป ครอบคลุมประเทศที่พัฒนาแล้ว กำลังพัฒนา และประเทศด้อยพัฒนา นอกจากนี้ มีจำนวนบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ติดอันดับ 500 ของ Fortune Global เข้าร่วมมากกว่าครั้งที่แล้ว และมีอัตรากลับมาเข้าร่วมมากกว่า 80% นับเป็นเสน่ห์ของงานจัดแสดงฯ และยิ่งเป็นเสน่ห์ของจีนในการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจต่อไป