5-11 พ.ย.ให้เรียนสอนออนไลน์ก่อน สั่งต้นสังกัดจับตาทุกพื้นที่ใกล้ชิด พร้อมกำชับสถานศึกษาทุกแห่งยึด 6 มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม และ 7 มาตรการเข้มเคร่งครัด
จากกรณีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้เข้าตรวจสอบนักเรียน ครู และบุคลากร โรงเรียนคําสร้อยพิทยาสรรค์ อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร ซึ่งผลการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) เบื้องต้นอย่างไม่เป็นทางการ พบว่ามีครู บุคลากร และนักเรียน ประมาณ 80 คน มีผลเป็นบวกนั้น
เมื่อวันที่ 5 พ.ย.64 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้วพบว่า ครูและนักเรียนบางส่วน ที่ตรวจพบผลเป็นบวก จากการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี ATK เมื่อตรวจด้วยวิธี RT PCR ซ้ำอีกครั้ง ทางสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร ได้แจ้งผลตรวจยืนยันของโรงเรียนดังกล่าว เมื่อวันที่ 5 พ.ย.64 เวลา 04.00 น. ว่าตรวจแล้วผลเป็นลบ ผลยืนยันไม่พบเชื้อโควิด 19 ทุกราย ทั้งนี้นักเรียนกว่า 1,000 คน และนักเรียนที่พักรอที่โรงพยาบาลสนามทุกคนได้ทยอยกลับบ้านหมดแล้ว และให้เฝ้าระวังและสังเกตอาการอยู่ที่บ้าน โดยในวันที่ 5-11 พ.ย.นี้โรงเรียนจะจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์
ทั้งนี้ ตนได้สั่งการไปยังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)และหน่วยงานที่มีสถานศึกษาในสังกัด ให้เฝ้าติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ที่อาจจะเกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งระดับเขตพื้นที่การศึกษา จังหวัด และส่วนกลาง หากเกิดเหตุไม่ว่าจะในพื้นที่จังหวัดใด ให้ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุ ในการที่จะเข้าไปแก้ปัญหาทันทีเพื่อให้ความมั่นใจผู้ปกครองและนักเรียน
“ขณะนี้ทุกโรงเรียนมีแผนเผชิญเหตุในระดับปฏิบัติที่เป็นระบบและมีการซักซ้อมเป็นอย่างดี เมื่อเกิดเหตุการณ์เด็กติดเชื้อโควิด 19 ขึ้นมา ทางสาธารณสุขจะเข้าในพื้นที่ทันทีทั้งโรงเรียนและชุมชน โดยในส่วนของโรงเรียนก็จะหารือร่วมกับผู้เกี่ยวข้องว่าควรจะหยุดเรียนหรือไม่ โดยยึดหลักการความปลอดภัยของนักเรียนควบคู่กับคุณภาพของผู้เรียนเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ขอกำชับให้ทุกสถานศึกษาปฏิบัติตาม 6 มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม และ 7 มาตรการเข้มสำหรับสถานศึกษา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ขอชื่นชมทุกฝ่ายที่สามารถดำเนินการได้ตามแผนเผชิญเหตุ เมื่อสงสัยว่าพบเชื้อโควิด 19 ทั้งฝ่ายปกครอง สาธารณสุข เอกชน ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้ปกครอง ครู นักเรียน ให้ความร่วมมือ ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดเป็นอย่างดี” รมว.ศธ.กล่าว