วันที่ 3 พ.ย.ที่ กองบังคับการตำรวจทางหลวง พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศผบก.ทล.,พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.จตุพล เร่งถนอมทรัพย์ รอง ผบก.ทล.,พ.ต.อ.อนุรักษ์ ฉิมทิม ผกก.4 บก.ทล.,พ.ต.ท.ภวัต ฉัตรอินแก้ว รอง ผกก.4 บก.ทล., พ.ต.ท.ศษณรรฐ รัตนเศวตวงศ์ รอง ผกก.4 บก.ทล. , พ.ต.ท.บดินทร์ ชูเฉลิม สว.ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล., ร.ต.อ.พัลลภ สารคำ รอง สว.ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล., ร.ต.ต.มานัตร์ เจริญ รอง สว.(ป.) ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล., ด.ต.จิระ พลสง ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล., ด.ต.ธีรวุฒิ พระคุณ ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล., ส.ต.อ.ภูมิ คูเมือง ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. ยึดของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) มีอักษร Y1 ปรากฏบนห่อ จำนวน 333 ห่อ ห่อละ 6,000 เม็ด และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 1 มัด มัดละ 2,000 เม็ด รวม 2,000,000 เม็ด ,ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 200 ห่อ ห่อละ 1 กก. รวม 200 กก.,รถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน ผว 8850 ชลบุรี,โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่บนถนนทางหลวงหมมายเลขข 2 กม.358-359 ถนนมิตรภาพ ต.โนนท่อน อ.เมือง จ.ขอนแก่น
พล.ต.ต.เอกราช กล่าวพฤติการณ์ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดได้ออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบเพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและแข่งรถในทาง บริเวณ ทล.2 กม.361-362 ถ.มิตรภาพ ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ต่อมา พบรถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้อ มิตซูมิชิ สีขาว ทะเบียน ผว 8850 ชลบุรี (ทราบภายหลัง) วิ่งมาด้วยความเร็วสูงและมีลักษณะท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดจึงเรียกให้หยุดรถ เพื่อทำการตรวจสอบ แต่คนขับรถคันดังกล่าวไม่หยุด แต่กลับเร่งความเร็วเพื่อหลบหนี เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดจึงไล่ติดตามรถคันดังกล่าวไป กระทั่งถึง กม.358-359 ต.โนนท่อน อ.เมือง จ.ขอนแก่น รถคันดังกล่าวเสียหลักตกลงข้างทางและชนกับเสาไฟฟ้า จากนั้น มีชาย (วัยกลางคน) รูปร่างสันทัด สวมเสื้อยืดแขนสั้น สีน้ำเงิน กางเกงขาสั้น เปิดประตู ด้านคนขับลงมาจากรถ แล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าข้างทาง อาศัยความมืดหลบหนีไปได้ และจากการตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบของกลาง ยาบ้าและยาไอซ์ อยู่บริเวณตู้ทึบท้ายรถยนต์มิตซูบิชิ สีขาวทะเบียน ผว 8850 ชลบุรี และพบโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง อยู่บริเวณเบาะที่นั่งด้านซ้ายข้างคนขับในรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึด จึงยึดของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เวฬุวัน จ.ขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมา พ.ต.ท.บดินทร์ ชูเฉลิม สว.ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล. ได้รายงานเหตุให้ พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. ทราบ จึงได้สั่งการให้สืบสวนขยายผล โดยมีการตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ภายในรถ ทำให้ทราบเบื้องต้นว่า รถคันดังกล่าว ได้เดินทางมาจากจังหวัดทางภาคกลางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นประมาณ 2 วัน ก่อนเกิดเหตุ จึงได้สืบสวนต่อไป ทำให้ทราบถึงผู้ต้องสงสัย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหลบหนีคาดว่า จะสามารถระบุตัวผู้กระทำความผิดและสามารถจับกุมตัวได้ต่อไป ทั้งนี้ ตำรวจทางหลวง จะดำเนินการอย่างเข้มงวดเพื่อกวดขันกับผู้กระทำความผิดในเส้นทางหลวง อย่างเคร่งครัด หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1193 ตำรวจทางหลวง.
พล.ต.ต.เอกราช กล่าวพฤติการณ์ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดได้ออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบเพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและแข่งรถในทาง บริเวณ ทล.2 กม.361-362 ถ.มิตรภาพ ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ต่อมา พบรถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้อ มิตซูมิชิ สีขาว ทะเบียน ผว 8850 ชลบุรี (ทราบภายหลัง) วิ่งมาด้วยความเร็วสูงและมีลักษณะท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดจึงเรียกให้หยุดรถ เพื่อทำการตรวจสอบ แต่คนขับรถคันดังกล่าวไม่หยุด แต่กลับเร่งความเร็วเพื่อหลบหนี เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดจึงไล่ติดตามรถคันดังกล่าวไป กระทั่งถึง กม.358-359 ต.โนนท่อน อ.เมือง จ.ขอนแก่น รถคันดังกล่าวเสียหลักตกลงข้างทางและชนกับเสาไฟฟ้า จากนั้น มีชาย (วัยกลางคน) รูปร่างสันทัด สวมเสื้อยืดแขนสั้น สีน้ำเงิน กางเกงขาสั้น เปิดประตู ด้านคนขับลงมาจากรถ แล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าข้างทาง อาศัยความมืดหลบหนีไปได้ และจากการตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบของกลาง ยาบ้าและยาไอซ์ อยู่บริเวณตู้ทึบท้ายรถยนต์มิตซูบิชิ สีขาวทะเบียน ผว 8850 ชลบุรี และพบโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง อยู่บริเวณเบาะที่นั่งด้านซ้ายข้างคนขับในรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึด จึงยึดของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เวฬุวัน จ.ขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมา พ.ต.ท.บดินทร์ ชูเฉลิม สว.ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล. ได้รายงานเหตุให้ พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. ทราบ จึงได้สั่งการให้สืบสวนขยายผล โดยมีการตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ภายในรถ ทำให้ทราบเบื้องต้นว่า รถคันดังกล่าว ได้เดินทางมาจากจังหวัดทางภาคกลางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นประมาณ 2 วัน ก่อนเกิดเหตุ จึงได้สืบสวนต่อไป ทำให้ทราบถึงผู้ต้องสงสัย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหลบหนีคาดว่า จะสามารถระบุตัวผู้กระทำความผิดและสามารถจับกุมตัวได้ต่อไป ทั้งนี้ ตำรวจทางหลวง จะดำเนินการอย่างเข้มงวดเพื่อกวดขันกับผู้กระทำความผิดในเส้นทางหลวง อย่างเคร่งครัด หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1193 ตำรวจทางหลวง.