อาจารย์นายแพทย์สมาธิ ปัทมธรรมกุล อายุรแพทย์โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) สื่อสารความรู้ความเข้าใจเรื่องการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และเชิญชวนให้นิสิต บุคลากรมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เข้ารับวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ หากสังคม ม.มหาสารคาม ฉีดได้มากกว่า 70% ขึ้นไป จะเปิดสังคมได้ไว เปิดเทอมได้อย่างสบายใจ และปลอดภัยมากขึ้นแน่นอน
อาจารย์นายแพทย์สมาธิกล่าวว่า เราทุกคนจำเป็นต้องได้รับวัคซีนป้องกันติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพราะโรคนี้จะยังอยู่กับเราต่อไปอีกนาน หรืออาจเรียกว่าอยู่ตลอดไป เปรียบเทียบกับการรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ทุกคนต้องได้รับวัคซีนเพื่อการสร้างภูมิคุ้มกันพื้นฐาน แม้หากได้รับเชื้อ ก็จะลดความรุนแรงของโรคได้ ป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต
ปัจจุบันวัคซีนโควิดในประเทศไทยที่รัฐบาลจัดหาและจัดสรรให้มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้นำมาฉีดให้นิสิต บุคลากร และประชาชนฟรี มีให้เพียงพอ ได้แก่ วัคซีนโควิดซิโนแวค และวัคซีนโควิดแอสตราเซเนก้า ซึ่งอย.ได้อนุมัติทะเบียนวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
วัคซีนสูตรไขว้ Sinovac – AstraZeneca สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีเทียบเท่า AstraZeneca- AstraZeneca ไม่ต้องเว้นระยะห่างเข็มแรก เข็มสอง ถึง 2-3 เดือน ความปลอดภัยของวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca เราก็ทราบกันดีอยู่แล้ว ในอนาคตหากจะฉีดวัคซีนทางเลือกอื่นกระตุ้นทีหลังก็ย่อมทำได้ การแพร่ระบาดโควิด-19 ยังไม่มีทีท่าจะหยุดยั้ง จึงอยากเน้นย้ำให้ทุกคนได้เข้าใจว่า ถ้าประชาชนเข้าถึงวัคซีนโควิดได้มากเท่าไหร่ จะเป็นยี่ห้อใด ชนิดใดก็ตาม จะยิ่งเป็นผลดีต่อการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้มากขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ จากสถิติคนที่ฉีดวัคซีนมีผลข้างเคียงรุนแรงมีน้อยมาก แต่ว่าคนที่ติดเชื้อโควิด ร้อยคนจะมีเสียชีวิต 1-2 คน ตอนนี้การที่เราได้รับวัคซีนถือว่าปลอดภัย แล้วก็คุ้มค่ากว่า
การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด – 19 สามารถควบคุมได้ด้วยความร่วมมือของทุกคน ในการป้องกันและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือ อยากเชิญชวนนิสิต บุคลากรมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และประชาชนชาวไทยทุกคน ชวนกันไปฉีดวัคซีน เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ป้องกันการเกิดโรค ลดความรุนแรงเมื่อได้รับเชื้อ และยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาจารย์นายแพทย์สมาธิกล่าว