เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงายงานว่า ที่บริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยว จ.ศรีสะเกษ นางฐพัชร์รดา ธนินท์จิรานนท์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดศรีสะเกษ และคณะ ได้เดินทางมาสำรวจความพร้อมของการเตรียมที่จะเปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวชม โดยมี นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ พร้อมด้วย นางจิตร อาจสัญจร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารให้การต้อนรับและนำสำรวจพื้นที่ ทั้งนี้เนื่องจากว่า ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีกำหนดที่จะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจาก 46 ประเทศให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 64 เป็นต้นไป ซึ่งจากการสำรวจความพร้อมพบว่า มีการปรับปรุงรอบๆบริเวณผามออีแดงทำให้สถานที่สะอาดเป็นระเบียบ ระบบสาธารณูปโภคมีความพร้อม มีเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารคอยให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ส่วนการรักษาความปลอดภัยก็มีเจ้าหน้าที่ ตชด.และเจ้าหน้าที่ทหาร มาคอยดูแล โดยที่ผามออีแดง เป็นหน้าผาสูงชันกั้นเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ตลอดแนวผามออีแดงมีระยะทางยาวประมาณ 500 เมตร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นทัศนียภาพของแผ่นดินประเทศกัมพูชาที่อยู่ต่ำลงไปเบื้องล่าง มองลงไปจากผามออีแดงจะเห็นเป็นมุมกว้างไกล บางวันจะมองเห็นสายหมอกที่ครอบคลุมอยู่รอบบริเวณหน้าผา มีโอโซนให้ได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ทำให้รู้สึกสดชื่น เมื่อเดินไปทางด้านขวามือ จะสามารถมองเห็นปราสาทเขาพระวิหารได้ด้วยตาเปล่า ค่อนข้างชัดเจน ลงบันไดไปบริเวณหน้าผาจะเห็นภาพแกะสลักหินนูนต่ำ อายุประมาณ 1,500 ปี เป็นภาพเทพ 3 องค์ สร้างขึ้นก่อนปราสาทเขาพระวิหาร ราวกลางศตวรรษที่ 11 ซึ่งถูกประกาศให้เป็นหนึ่งใน บ ไทยแลนด์ นักท่องเที่ยวสามารถมาชมและศึกษาประวัติศาสตร์อารยะธรรมของขอมโบราณ มีสถูปคู่ ทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ สร้างจากหินทรายตั้งอยู่ นอกจากนี้ในช่วงค่ำนักท่องเที่ยวที่สนใจเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์ ก็จะได้ชมดาวล้านดวง ที่เนินนับดาวด้วย ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตอนนี้ต้อง ถือว่าผามออีแดงมีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ สถานที่ที่ปิดไว้ทำให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น ถือว่าช่วงนี้ทรัพยากรธรรมชาติและบริเวณผามออีแดงมีความสวยงามมาก ไม่ได้ถูกทำลายเหมือนสมัยก่อนที่มีนักท่องเที่ยวมากันเยอะมาก การปิดเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้มีการปรับปรุงและตอนนี้ถือว่ามีความสมบูรณ์สวยงาม ผู้ที่ผ่านการฉีดวัคซีนมาแล้ว มีการสวมหน้ากากอนามัยก็สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวที่ผามออีแดงได้ ตอนช่วงเช้าตื่นขึ้นมาก็มารอรับพลังแสงพระอาทิตย์ขึ้น 3 แผ่นดิน ขึ้นจากประเทศลาว มาถึงประเทศไทยและลงไปถึงประเทศกัมพูชา ตรงจุดนี้ถือว่าเป็นการมารับพลังสุริยะ 3 แผ่นดิน ซึ่งมีความเชื่อกันว่าการได้มารับพลังสุริยะจากแสงแรกของเช้าวันใหม่ จะช่วยเติมเต็มให้ผู้ที่ได้รับพลังสุริยะได้มีพลัง โชคดีมีชัย และทำให้มีกำลังใจที่จะมุ่งมั่นในการทำกิจการงานต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ต่อไป ถ้ามาในช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเจอหมอกที่สวยงาม วันไหนฝนตกก็ยิ่งจะเห็นหมอกชัดเจนแม้ไม่เห็นหมอกก็คุ้มมากเพราะว่าใครๆที่มาผามออีแดงก็จะบอกว่าวิวทิวทัศน์สวยงามน่าถ่ายภาพ จึงขอเชิญนักท่องเที่ยวทุกท่านมารับพลังสุริยะ3 แผ่นดินที่ผามออีแดงตอนนี้พร้อมรับนักท่องเที่ยวแล้วโดยจะเปิดในวันที่ 1 พ.ย.64 นี้เป็นต้นไป นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนมาในวันนี้ 2 สถานะก็คือในสถานะซึ่งดูภารกิจภาพรวมของ จ.ศรีสะเกษ และอีกส่วนหนึ่งในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ซึ่งในแนวทางแรกก็คือตามที่นโยบายของรัฐบาลที่ให้มีการเปิดการท่องเที่ยว แต่สถานการณ์โควิด-19 ก็ได้มีการเปิดจังหวัดนำร่องต่างๆ แต่ว่าในส่วนของจังหวัดอื่นที่มีความพร้อมในกิจกรรมที่จะทำได้ถ้าสามารถทำให้เดินได้ก็ให้เดินไป ในส่วนนี้เองทางจังหวัดก็ได้มีการเตรียมความพร้อมต่างๆและคิดว่าสถานการณ์โควิดต่างๆเราก็ผ่อนคลายไปมากแล้วก็ควรที่จะได้มีการเปิดพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาวนี้ศรีสะเกษก็เป็นที่หมายตาของนักท่องเที่ยวทั่วไป เพราะฉะนั้นเป้าหมายแรกของเราก็คือเราก็มองมาที่ผามออีแดง ซึ่งนักท่องเที่ยวในช่วงปลายฝนต้นหนาวหมอกจะสวยงามมาก ซึ่งทาง นอภ.กันทรลักษ์ และอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้มีการประชุมปรึกษาหารือกันในการเตรียมความพร้อม แต่ว่าเมื่อตนมาดูแล้วพอได้รับทราบมาตรการต่างๆ รวมทั้งบรรยากาศต่างๆ คิดว่า จ.ศรีสะเกษก็มีความพร้อมในการที่จะเปิดผามออีแดงแล้ว ซึ่งทางอำเภอกันทรลักษ์ได้ร่วมกับอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้มีการวางมาตรการสอดคล้องกับมาตรการของ ศบค.และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดไม่ว่าจะเป็นการจำกัดจำนวนคนเช่น จะไม่ให้คนมารวมตัวกันมากๆ ช่วงเวลาของการท่องเที่ยว 2 - 3 ชั่วโมงในแต่ละรอบ จะมีคนที่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นมาท่องเที่ยวที่ผามออีแดงประมาณ 600 คน เฉลี่ยเป็นผัด ๆ กันไป และในส่วนที่ 2 ก็คือจัดระบบที่จะไม่ให้คนมาออหนาแน่นบริเวณทางขึ้นที่จะขออนุญาตเข้ามา ให้มีการวางระบบในการจองล่วงหน้าผ่านระบบต่างๆของทางอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารที่กำหนดว่าต้องจองมาก่อน และประการที่ 3 ก็คือเรื่องของการเข้าพักโดยทั่วไป ตอนนี้ก็ยังงดให้เข้าพักในเขตบ้านพักอุทยาน แต่ว่าจะอนุญาตให้จองเพื่อให้เข้าพักในลักษณะของเต็นท์ของอุทยานแต่เพียงคืนละ 30 คนเท่านั้น ผวจ.ศรีสะเกษ ยังกล่าวด้วยว่า เพราะฉะนั้นในช่วงแรกนี้เราก็จะทดสอบมาตรการในเรื่องนี้ดูก่อน และในอนาคตต่อไปทางอุทยานก็อาจจะมีการขยับขยายจำนวนคนมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เราจะต้องปฏิบัติร่วมกันและอีกส่วนหนึ่งก็คือการเฝ้าระวังส่วนตัว ตามมาตรการทางสาธารณสุขต่างๆ และการฉีดวัคซีนที่เป็นมาตรการหลักของแหล่งท่องเที่ยวทั่วไป ในส่วนของฝั่งเราก็คือทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารก็ได้มีการฉีดวัคซีนทุกคนแล้ว และทางนายอำเภอกันทรลักษ์ก็ได้มีการยืนยันไปแล้วว่า ในส่วนของร้านอาหาร สถานประกอบการต่างๆ หรือโรงแรมรีสอร์ท เป็นเป้าหมายในการให้ฉีดวัคซีนและมีการฉีดวัคซีนไปเยอะแล้ว ในฝั่งของนักท่องเที่ยวเราก็เปิดโอกาสให้กับคนที่ฉีดวัคซีนแล้วไม่ต้องกักตัว ถ้าไม่มีป่วยไข้หรือภาวะเสี่ยงอื่นๆก็สามารถที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวและเดินทางกลับออกไปได้ โดยดำเนินการตามมาตรการ จ.ศรีสะเกษก็มีความพร้อมในเรื่องเหล่านี้ รวมทั้งงานกีฬาต่างๆที่จะเกิดขึ้นและการเฉลิมฉลอง 239 ปีซึ่งเราก็อยากบอกว่า หนาวนี้ศรีสะเกษพร้อมรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่