วันที่ 28 ต.ค 64 พ.ต.อ.กฤช กัญชนะ ผกก.สน.เตาปูน พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุรเดช ฉัตรไทย รองผกก.สส.สน.เตาปูน พ.ต.ต.จำลอง สาดสูงเนิน สว.สส.สน.เตาปูน พ.ต.ต.ปฏิญญา มณีโชติ สว.สส.สน.เตาปูน พร้อมตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.เตาปูน ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.อรวรรณ ไวยิ่ง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 ถนนพระสุเมรุ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงทรัพย์ พ.ต.ท.สุรเดช เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 13.40 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากนางประไพ อัศวภาณุกูล อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 562 – 564 ถนนเตชะวณิช แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ว่าเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 10.00 น. ได้มีคนร้ายเป็นหญิงไม่ทราบชื่อนามสกุล ลักษณะอ้วน ผิวขาว ตัดผมสั้นเปิดข้างได้โทรศัพท์เข้ามาที่เบอร์โทรศัพท์บ้าน โดยพูดคุยกับผู้เสียหายว่าตนเองได้ฝากเงินไว้กับบุตรสาวของผู้เสียหาย เป็นจำนวนเงิน 35,000 บาท แต่ตนเองต้องการใช้เงินด่วนบุตรสาวของผู้เสียหายให้มาเอาเงินกับผู้เสียหาย จำนวนเงิน 35,000 บาท จนผู้เสียหายหลงเชื่อคนร้ายได้มอบเงินจำนวนดังกล่าวให้กับคนร้ายไป ต่อมาผู้เสียหายได้โทรศัพท์ไปหาลูกสาวจนรู้ว่าถูกคนร้ายหลอกเอกเงินไป จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน เพื่อดำเนินคดีกับคนร้ายคนถึงที่สุด พ.ต.ท.สุรเดช เปิดเผยต่อว่า หลังเกิดเหตุชุดสืบสวน สน.เตาปูน เร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว จึงได้สืบสวนไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายเรื่อยมา จนทราบว่าผู้ต้องหาคือ น.ส.อรวรรณ ไวยิ่ง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 ถนนพระสุเมรุ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ จึงได้รวบรวมหลักฐานมอบให้พนักงานสอบสวน ไปขออนุมัติหมายจับจากศาลแขวงพระนครเหนือ และศาลได้ออกหมายจับลงวันที่ 28 ตุลาคม 2564 เมื่อได้หมายจับแล้วฝ่ายสืบสวน สน.เตาปูน ได้เดินทางไปยังบ้านของผู้ต้องหาที่อยู่แถวริมทางรถไฟ เขตบางพลัด เมื่อไปถึงพบผู้ต้องหายืนอยู่หน้าบ้านจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาดู และยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาที่ สน.เตาปูน แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่าได้ตระเวนก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วจำนวนหลายครั้ง โดยจะเดินไปตามร้านต่างๆที่ผ่าน แล้วดูเบอร์หน้าร้านที่ขายของจะเป็นเบอร์02และเลือกเหยื่อที่เป็น คนแก่ ที่เฝ้า ร้าน ก่อนจะโทรเข้าไปหาและพูดจาหว่านล้อม จนเหยื่อหลงเชื่อและเข้าไปหาก่อนที่เหยื่อจะมอบเงินให้ สำหรับผู้ต้องหา เคยถูกจับกุมที่ สน.พลับพลาไชย 2 เมื่อปี 2563 และก่อเหตุในท้องที่ สน.ดุสิต จำนวน 1 ครั้ง แต่บางรายไม่กล้ามาแจ้งความเนื่องจากอับอาย