วันที่ 28 ตุลาคม 2564 ทีเส็บจัดประชุมสุดยอดผู้นำไมซ์ MICE City Summit 2021 ใช้ภูเก็ตเป็นต้นแบบ ดึงผู้นำเมืองไมซ์และเมืองที่มีศักยภาพ 16 แห่ง ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากโมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เร่งพัฒนาศักยภาพเมือง เตรียมความพร้อมรับการเปิดประเทศ ส่งเสริมการจัดงานและกระจายรายได้สู่ภูมิภาค นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า ทีเส็บเดินหน้าพัฒนาศักยภาพเมืองไมซ์ของไทยพร้อมกับขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ภาคใต้ โดยประชุมสุดยอดผู้นำไมซ์ MICE City Summit 2021 พร้อมถอดบทเรียนจากการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเมืองด้วยภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งมีผู้บริหารเมืองไมซ์และผู้นำภาคเอกชนจาก 16 จังหวัด ร่วมเรียนรู้และเสริมสร้างประสบการณ์การเป็นเจ้าภาพงานระดับนานาชาติของจังหวัดภูเก็ต ทั้งด้านการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การจัดประชุมองค์กรและประชุมสมาคมในระดับนานาชาติ การจัดงานแสดงสินค้า เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมไมซ์ รองรับการเติบโตของนักเดินทางไมซ์จากทั่วโลก สำหรับ 16 เมืองไมซ์ที่เข้าร่วมมีจำนวน 10 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น อุดรธานี สงขลา นครราชสีมา พิษณุโลก สุราษฏร์ธานี และเมืองที่มีศักยภาพอีก 6 แห่ง ได้แก่ ระยอง เชียงราย นครศรีธรรมราช เพชรบุรี กาญจนบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งการประชุมครั้งนี้ จะมีการหารือแผนการดำเนินการระดับจังหวัดและภูมิภาคร่วมกัน รวมถึงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานของจังหวัดภูเก็ตในฐานะเมืองไมซ์ที่มีความพร้อมและประสบการณ์ในการต้อนรับนักเดินทางไมซ์จากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีกิจกรรมการเยี่ยมชมและร่วมกิจกรรมไมซ์ในชุมชนท้องถิ่นที่หลากหลาย เพื่อรองรับนักเดินทางไมซ์ โดยพัฒนาขึ้นมาใหม่อีก 13 เส้นทาง ใช้เทคโนโลยี เป็นเครื่องมือที่ทันสมัยเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ซึ่งหลังจากที่รัฐบาลได้มีมาตรการผ่อนปรนการจัดงานไมซ์ ทางทีเส็บ ได้เร่งทำตลาดไมซ์ในภาคใต้อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นตลาดในประเทศเป็นหลักด้วยแพ็กเกจสนับสนุนการจัดงานไมซ์ สำหรับกลุ่มการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในประเทศ สนับสนุนผ่านโครงการประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า กลุ่มการจัดประชุมภายในประเทศ สนับสนุนผ่านแคมเปญ Domestic Convention Recovery และกลุ่มการจัดงานแสดงสินค้าภายในประเทศ สนับสนุนผ่านแคมเปญ Domestic Exhibition Recovery รวมถึงการสนับสนุนด้านการดึงงานและการจัดงานเมกะอีเวนต์ งานเฟสติวัล มาจัดในพื้นที่ภาคใต้มากยิ่งขึ้น ขณะที่ตลาดต่างประเทศ จะดำเนินการทำงานร่วมกับผู้แทนการตลาดในต่างประเทศของทีเส็บ โดยการอัปเดทข้อมูลใหม่ ๆ ให้ตลาดได้รับรู้ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางไมซ์ใหม่ โรงแรม หรือสถานที่จัดการประชุมที่เพิ่งเปิดตัว รวมถึงชุมชนต่าง ๆ ในภาคใต้ที่สามารถรองรับนักเดินทางไมซ์ได้ ซึ่งแนวโน้มความต้องการของตลาดไมซ์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตช่วงกรกฎาคม-ธันวาคม 2564 ทีเส็บคาดการณ์ว่า จะมีนักเดินทางไมซ์ประมาณ 10% ของนักเดินทางที่เข้ามายังจังหวัดภูเก็ต หรือคิดเป็นจำนวน 12,000 คน จากกลุ่มประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลเป็นหลัก ซึ่งจะก่อให้เกิดรายได้ประมาณ 960 ล้านบาท พร้อมกันนี้ทางทีเส็บได้เตรียมความพร้อมภารกิจหลักที่จะอำนวยความสะดวกรับตลาดไมซ์จากนานาประเทศ โดยเฉพาะจากพื้นที่เสี่ยงต่ำ 46 ประเทศ ที่สามารถเข้าเมืองไทยได้โดยไม่กักตัวตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป ประกอบด้วย ภารกิจที่ 1 ขยายโครงการเปิด MICE LANE ที่สนามบินนานาชาติ ได้แก่ ภูเก็ต ดอนเมือง สุวรรณภูมิ โดยเน้นเรื่องบริการ มีเจ้าหน้าที่ดูแลต้อนรับถึงประตูเครื่องบิน และเจ้าหน้าที่ และขยายเป็น Immigration Lane สามารถใช้งานตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพิ่มความสะดวกแบบวัน สต็อป เซอร์ (One Stop Service) ลดขั้นตอน เวลา รวดเร็ว โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของทีเส็บประสานงานกับทาง ตม.และ ทอท.เป็นการทำงานเชิงบูรณาการเป็นครั้งแรกทำให้เกิดความสมบูรณ์ทุกขั้นตอน ภารกิจที่ 2 นำผลวิจัยพฤติกรรมซึ่งมีหน่วย MICE Capibility ของทีเส็บ ทำหน้าที่วิเคราะห์ความต้องการของตลาดไมซ์ในและต่างประเทศทั่วโลก ภายใต้ตราการใช้สัญลักษณ์มาตรฐานสถานที่จัดประชุม หรือ TMVS :THAILAND MICE VENUE STANDARD ควบคุมดูแลอย่างเข้มข้นเรื่องมาตรฐานปลอดภัย และทุกอย่างของความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA Plus เน้นทำมาตรฐานความสะอาดปลอดเชื้อโรค หรือ hygiene อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมาทีเส็บให้งบประมาณกับทางโรงแรม สถานที่จัดงาน นำไปอบรมบุคลากร ตอกย้ำความมั่นใจกับไมซ์ทั่วโลก ล่าสุดสามารถนำตลาดกลุ่มจัดประชุมและ (Meeting) กับรางวัลการเดินทางและ Exhibition มีเข้ามาจริงกับยังทำเสมือนจริง ซึ่งในช่วง 2 เดือนสุดท้ายปี 2564 มีกลุ่มประชุมจากประเทศในแถบอาเซียนประมาณ 11 กรุ๊ป สนใจเดินทางเข้ามาจัดงานในกรุเทพฯ อย่างไรก็ตาม นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ก่อนที่จะมีโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์นั้น จำนวนประชากรที่อยู่ในภูเก็ตที่ประกอบอาชีพธุรกิจบริการต่างๆ ทั้งรถเช่า โรงแรม และร้านอาหารกว่า 95% ต้องหยุกชะงัก แต่เมื่อโครงการดังกล่าวได้เริ่มต้นตั้งแต่เดือนกรกฏาคม จนมาถึงเดือนตุลาคมนี้จำนวนคนชาวต่างชาติจาก 400-500 คนในช่วงแรก เป็นหนึ่งพันกว่าคน รวมทั้งหมดตั้งแต่เปิดโครงการประมาณ 57,000 คน