ศพดส.ตร.จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับอินเตอร์โพลของมาเลเซีย เพิ่มเติม 2 ราย ของขบวนการลักลอบขนแรงงานผิดกฎหมายผ่านประเทศไทยไปยังประเทศมาเลเซีย เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 28 ต.ค.64 พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ฐานะ ผอ.ศพดส.ตร. , พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ฐานะ รอง ผอ.ศพดส.ตร. พล.ต.ท .นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่จากกงศุลประเทศพม่า และประเทศมาเลเซีย ,NGO เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน ,กระทรวงพัฒนาสังคมและมนุษย์ และเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน ศพดส.ตร. ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับอินเตอร์โพลของประเทศมาเลเซีย 2 ราย ของขบวนการลักลอบขนแรงงานผิดกฎหมาย ผ่านประเทศไทยไปยังประเทศมาเลเซีย โดยมีการทารุณกรรม และฝังศพของผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายที่เสียชีวิต ระหว่างพักอาศัยชั่วคราวในประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 29 พ.ย.58 พล.ต.อ.รอย เปิดเผยว่า จากกรณีที่ทางการมาเลเซีย โดยสถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย ได้มีคำร้องผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ร้องขอให้ทางการไทยส่งตัวบุคคลสัญชาติไทยจำนวน 4 รายเป็นผู้ร้ายข้ามแดน โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบขนย้ายแรงงานโดยผิดกฎหมายในประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้ดำเนินการจับกุมไปแล้วจำนวน 1 ราย เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา พล.ต.อ.รอย กล่าวอีกว่า จากกรณีดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน รวมถึงการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในสายตาของชาวต่างชาติและองค์กรระหว่างประเทศ และช่วยจัดการกับปัญหาการลักลอบขนแรงงานข้ามชาติซึ่งใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการกระทำผิด ซึ่งลักษณะดังกล่าวเป็นภัยต่อประเทศ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ในการสืบสวนและปราบปรามอาชญากรรมในรูปแบบดังกล่าวอย่างจริงจัง พล.ต.อ.รอย กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ ศพดส.ตร. ให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว โดยได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิสมัย หัวหน้าชุดปฏิบัติการสืบสวน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ทำการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่เหลืออีกจำนวน 4 ราย เพื่อนำตัวผู้ต้องหาดังกล่าวส่งไปดำเนินคดีที่ประเทศมาเลเซียตามคำร้องขอดังกล่าว พล.ต.อ.รอย กล่าวว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ต.ค. ชุดปฏิบัติการสืบสวน ศพดส.ตร. ได้ทำการจับกุม ผู้ต้องหาชาวไทยที่ได้ถูกออกหมายจับจากศาลอาญา เลขที่ 228 และ 235 /2564 ลงวันที่ 16 มิ.ย.64 จากกรณีดังกล่าวเพิ่มเติมได้อีก 2 ราย คือ นายอรุณ แก้วฝ่ายนอก อายุ 27 ปี และ นายบุญเย็น เนสะแหละ อายุ 56 ปี โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ในพื้นที่ สภ.ควนโดน จ.สตูล และ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยผู้ต้องหาทั้งสองรายเป็นผู้ต้องหาที่อยู่ในขบวนการลักลอบขนย้ายแรงงานข้ามชาติ โดยได้ลักลอบขนเอาชาวโรฮิงญาจำนวนมากมาควบคุมไว้ ในดินแดนรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย เมื่อปี 58 ซึ่งได้มีการทรมานและเฆี่ยนตีแรงงานชาวโรฮิงญาจนบางส่วนเสียชีวิต และถูกฝังไว้ในหลุมใกล้กับบริเวณที่ถูกกักขังไว้ พล.ต.อ.รอย กล่าวว่า หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ,การลักลอบขนแรงงาน,การบังคับใช้แรงงาน,การทารุณกรรมเด็ก สามารถแจ้งตำรวจ เพื่อเร่งรัดดำเนินการได้อย่างทันท่วงที ส่วนผู้ที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนีการจับกุมนั้น ขอให้มามอบตัวกับทางตำรวจโดยเร็ว พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวเป็นการกระทำแบบขบวนการ คล้ายคลึงกับกรณี พล.ท.มนัส คงแป้น แต่ไม่ใช่เครือข่ายเดียวกัน เพราะในปัจจุบันขบวนการลักลอบขนแรงงานเถื่อนมีจำนวนมาก ทางตำรวจจึงต้องร่วมมือกับทุกภาคส่วนในบูรณาการกวาดล้าง ทั้งนี้ตำรวจพร้อมกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเริ่มตรวจสอบโรงงานต่างๆ ในวันที่ 29 ต.ค.นี้เป็นต้นไป จึงอยากฝากถึงเจ้าของโรงงานอย่าให้มีการใช้แรงงานบังคับโดยเด็ดขาด หากตรวจพบจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยอีกว่า ส่วนในวันที่ 29 ต.ค.นี้ ทางเจ้าหน้าที่จะไปรับตัวเหยื่อคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ ,โรแมนซ์สแกม ในพื้นที่ประเทศกัมพูชา จำนวน 46 ราย โดยทางการกัมพูชาได้ประสานส่งตัวเหยื่อทั้งหมดมาทางด่าน จ.สระแก้ว ซึ่งทางตำรวจจะดำเนินการช่วยเหลือต่อไป อย่างไรก็ตามในกรณีนี้ได้ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว 10 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เผยอีกว่า ปัญหาขบวนการค้ามนุษย์ เป็นปัญหาระดับโลกต้องร่วมมือการแก้ไขทุกภาคส่วนจึงจะได้ประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามขอฝากถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปมีส่วนร่วมกับขบวนการค้ามนุษย์ หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด สำหรับคดีดังกล่าวมีผู้ต้องหาทั้งสิ้น 9 ราย จับกุมได้แล้ว 3 ราย คือ นายเจ๊ะปา ลาปีดี อายุ 54 ปี หัวหน้าขบวนการ ,นายอรุณ แก้วฝ่ายนอก อายุ 27 ปี และนายบุญเย็น เนสะแหละ อายุ 56 ปี อยู่ในเรือนจำ 1 ราย และ เสียชีวิต 1 ราย ส่วนอีก 4 ราย ยังอยู่ระหว่างหลบหนี ซึ่งทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหา ลักลอบนำเข้าแรงงานต่างชาติ ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ศพดส.ตร. จะได้มีการประสานงานกับทางการมาเลเซียผ่านอัยการสำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ด้านนางวรรณภา สุขคง ผอ.กองต่อต้านการค้ามนุษย์ พม. กล่าวถึง กรณีหากมีการลอยแพแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย หรือมีการบังคับ กักขังแรงงานว่า กลุ่มแรงงานต่างด้าว หรือแรงงานเป็นเด็ก สตรี คนชรา สามารถติดต่อ กับอาสาสมัครแรงงาน (อสร.) ในพื้นที่ เป็นสื่อกลางกับทาง พม. หรือหน่วยอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ได้เช่นกัน ที่สายด่วน 1300 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 หน่วยงานรัฐพร้อมให้ความช่วยเหลือ ไม่ต้องหวาดกลัว ในการตรวจสอบโรงงานแต่ละแห่งของตำรวจนั้น พม.จะทำการคัดแยกประเภทของแรงงาน ดูและและให้ความช่วยเหลือ โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ จัดหาบ้านพักฉุกเฉิน รวมถึงการส่งกลับประเทศต้นทาง กรณีเป็นแรงงานต่างด้าว