วันที่ 28ต.ค.64 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ซึ่งมีการหลอกลวงประชาชนโดยใช้ Social Media เป็นจำนวนมาก ซึ่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้กำชับให้ทุกหน่วยเร่งระดมปราบปรามอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งนี้ ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ถือเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายฟอกเงิน หลังจากนี้จะได้แจ้ง ปปง. ให้ตรวจสอบเพื่อยึดทรัพย์สินของผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้องและดำเนินคดีฐานฟอกเงิน
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวถึงพฤติกรรมของคนร้าย ว่า คนร้ายจะใช้วิธีการโทรศัพท์เข้ามาหลอกว่า ผู้เสียหายมีส่วนร่วมกับคดีค้ายาเสพติดและฟอกเงิน ถ้าไม่อยากถูกดำเนินคดีให้โอนเงินมายังบัญชีธนาคารของคนร้าย ซึ่งมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไป มูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นกว่า 14 ล้านบาท ประกอบกับการสืบสวนสอบสวนพบว่าเครือข่ายแก๊ง Call center แบ่งหน้าที่กันเป็น 5 กลุ่ม ดังนี้ 1. คนร้ายระดับสั่งการ จำนวน 2 ราย และ 2.คนร้ายทำหน้าที่เป็นม้าถอนเงิน จำนวน 2 ราย ,3. คนร้ายทำหน้าที่จัดการทางการเงินหรือ โพยก๊วน จำนวน 1 ราย,4. คนร้ายทำหน้าที่จัดหาบัญชีและเปิดบัญชีธนาคาร จำนวน 4 ราย,5. คนร้ายที่ติดต่อหลอกลวงผู้เสียหาย อยู่ระหว่างสืบสวน น่าเชื่อว่าตั้งอยู่ต่างประเทศ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความห่วงใยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ขอฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชน กรณีการเปิด "บัญชีม้า" หรือ"รับจ้างเปิดบัญชี"เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน ถูกยึดทรัพย์ หากพบเบาะแส หรือเกรงจะตกเป็นเหยื่อ สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่ สายด่วน PCT 1599 ตลอด 24 ชม. หรือสายตรง 081-8663000 หรือ www.pct.police.go.th
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวถึงพฤติกรรมของคนร้าย ว่า คนร้ายจะใช้วิธีการโทรศัพท์เข้ามาหลอกว่า ผู้เสียหายมีส่วนร่วมกับคดีค้ายาเสพติดและฟอกเงิน ถ้าไม่อยากถูกดำเนินคดีให้โอนเงินมายังบัญชีธนาคารของคนร้าย ซึ่งมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไป มูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นกว่า 14 ล้านบาท ประกอบกับการสืบสวนสอบสวนพบว่าเครือข่ายแก๊ง Call center แบ่งหน้าที่กันเป็น 5 กลุ่ม ดังนี้ 1. คนร้ายระดับสั่งการ จำนวน 2 ราย และ 2.คนร้ายทำหน้าที่เป็นม้าถอนเงิน จำนวน 2 ราย ,3. คนร้ายทำหน้าที่จัดการทางการเงินหรือ โพยก๊วน จำนวน 1 ราย,4. คนร้ายทำหน้าที่จัดหาบัญชีและเปิดบัญชีธนาคาร จำนวน 4 ราย,5. คนร้ายที่ติดต่อหลอกลวงผู้เสียหาย อยู่ระหว่างสืบสวน น่าเชื่อว่าตั้งอยู่ต่างประเทศ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความห่วงใยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ขอฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชน กรณีการเปิด "บัญชีม้า" หรือ"รับจ้างเปิดบัญชี"เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน ถูกยึดทรัพย์ หากพบเบาะแส หรือเกรงจะตกเป็นเหยื่อ สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่ สายด่วน PCT 1599 ตลอด 24 ชม. หรือสายตรง 081-8663000 หรือ www.pct.police.go.th