จากนโยบายเปิดประเทศใน 120 วัน ถึงการเปิดประเทศอย่างปลอดภัยวันที่ 1 พ.ย.64 ด้วย 45 ประเทศ 1 เขตบริหารพิเศษเข้าประเทศมาแบบไม่ต้องกักตัว วัคซีนครบโดส มีผลตรวจ RT-PCR เป็นลบก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง มีประกันสุขภาพ 5 หมื่นเหรียญ มีหลักฐานการจองที่พัก และเมื่อมาถึงประเทศไทยได้รับการตรวจ RT-PCR วันแรกทันที ก่อนที่จะเดินทางต่อหรือท่องเที่ยวในพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ ที่ได้กำหนดเพิ่มเป็น 17 จังหวัดนั้น แม้ช่วงแรกอาจจะยังไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากนัก เนื่องจากหลายประเทศที่เปิดประเทศแล้วพบปัญหาการติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้า การควบคุมมาตรการ เพื่อลดความเสี่ยงการระบาดของโรคคงจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ทุกคนต้องตระหนัก และร่วมมือกัน เพื่อให้การติดเชื้ออยู่ในระดับที่ควบคุมได้และระบบสาธารณสุขรองรับได้ รวมถึงสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมเป็นไปด้วยดี
ประคับประคองเพื่อให้พ้นวิกฤต
ในเรื่องนี้ นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงภูเก็ตแซนด์บอกซ์ ซึ่งเป็นจังหวัดแรกที่นำร่องเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้กล่าวถึงการเปิดประตูสู่การท่องเที่ยวครั้งใหม่ในช่วงที่ผ่านมา พบว่า กว่าที่เศรษฐกิจของภูเก็ตจะกลับมาดีเหมือนเดิมนั้นคงต้องใช้เวลาและความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย ซึ่งประตูสู่การท่องเที่ยวบานนี้จะต้องเปิดกว้างมากขึ้นทุกช่องทาง เพื่อให้เศรษฐกิจภูเก็ตกลับมาดีอีกครั้ง ให้ชาวภูเก็ตก้าวไปด้วยกันแบบมีรายได้เพิ่มขึ้นเพียงพอที่จะประคับประคองให้ผ่านพ้นวิกฤต และเพิ่มความพยายามในการสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจท่องเที่ยวสู่คนรุ่นต่อไปอย่างมั่นคง
“สิ่งที่กำลังจะมุ่งหน้าไปสู่สิ่งที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าร่วมกัน และไปด้วยกันด้วยความมั่นใจ โดยมีเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยววันละ 1 หมื่นคนต่อวัน และคาดว่าน่าจะมีผู้ติดเชื้อวันละ 30 คน ซึ่งที่ผ่านมาเป็นผู้ป่วยสีเขียวหรือไม่มีอาการ โดยทางระบบสาธารณสุขยังรองรับได้ แลกกับการจ้างงานเพิ่มขึ้น 30% และจะทำให้รูปแบบชีวิตปกติใหม่ของชาวภูเก็ตกลับมา สิ่งที่จะเกิดขึ้นทางเศรฐกิจ คือมีรายได้ 16,320 ล้านบาท และเศรษฐกิจจะหมุนเวียน 35,000 ล้านบาท” นายภูมิกิตติ์ กล่าว
หัวหินเดินตามภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์
ขณะที่โครงการหัวหิน รีชาร์จ ที่ เกิดจากความร่วมมือของคนในพื้นที่ระหว่างภาครัฐ สาธารณสุขและภาคเอกชนในพื้นที่ นำเสนอโครงการดังดล่าวให้ภาครัฐพิจารณามาตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อพยายามผลักดันที่จะเปิดเมืองมาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่ก็มีอุปสรรคในเรื่องของการฉีดวัคซีน และการเปลี่ยนตัวผู้ว่าราชการจังหวัด และสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ร่วมทำโครงการนี้กับภาคเอกชนมาตั้งแต่ต้น แต่ด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย หัวหินพร้อมเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติฉีดวัคซีนแล้ว ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้
โดย นายกรด โรจนเสถียร ประธานโครงการหัวหิน รีชาร์จ ภาคเอกชน กล่าวว่า หัวหิน รีชาร์จ เข้าตามเกณฑ์ต่างๆ ที่วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดวัคซีนของประชากรในพื้นที่ ซึ่งเข็มที่ 1 มีสัดส่วน 98 % ส่วนเข็ม 2 อยู่ที่ 79.94% การจัดทำแผนปฏิบัติงาน Standard Operation Procedure หรือSOP และการเตรียมความพร้อมเรื่องการยกระดับมาตรฐานธุรกิจสู่ SHA+ และโรงแรมจะมีการจัดตั้ง SHA+MANAGER เพื่อดูแลนักท่องเที่ยวและดำเนินการขั้นตอนปฏิบัติต่างๆในช่วงที่พักในโรงแรมด้วย ซึ่งขณะนี้มีโรงแรมในหัวหินเข้าร่วม SHA+ รวม 80 แห่ง จำนวนห้องพักเกินกว่า 1,000 ห้อง เพียงพอต่อการรองรับนักท่องเที่ยว
สำหรับการเปิดพื้นที่หัวหินจะอยู่ในบริเวณ 86.36 ตรม.ในพื้นที่ต.หนองแก อ.หัวหิน และเป็นการเปิดพื้นที่ด้วยโมเดลเดียวกับ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องมีเอกสารการรับวัคซีน หลักฐานการจองโรงแรมที่พักล่วงหน้าในโรงแรมSHA+ ตรวจเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 ครั้ง กรมธรรม์ประกันสุขภาพ หนังสือรับรองปลอดโควิด-19 ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าไทย เป็นต้น
ไทยเที่ยวไทยช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตามในช่วงที่ยังไม่มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศมากนัก ก็ยังต้องอาศัยนักท่องเที่ยวชาวไทย ซึ่งนางสาวมิเชล เกา ผู้จัดการประจำภูมิภาคประจำกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงของ บุ๊คกิ้งดอทคอม กล่าวว่า จากการสำรวจของ บุ๊คกิ้งดอทคอม พบว่า การเดินทางท่องเที่ยวไทยในปี 2565 จะออกไปในรูปแบบการออกเดินทางท่องเที่ยว เพื่อเยียวยาร่างกายและปลอบประโลมจิตใจ ซึ่งเกือบสองในสามประมาณ 62% ของผู้เดินทางชาวไทย ได้ค้นพบว่าการเดินทางมีความสำคัญต่อสุขภาพกายและใจอย่างมาก ในช่วงที่ไม่สามารถออกเดินทางได้ และ 89% ของผู้เดินทางระบุว่า การได้มีแผนท่องเที่ยวหรือวางแผนไว้แล้วสำหรับวันหยุด ส่งผลที่ดีต่อจิตใจของพวกเขา
อีกทั้งประมาณ 74% ของผู้เดินทางชาวไทยเห็นด้วยว่า การเดินทางของพวกเขาควรจะสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนท้องถิ่นที่เป็นจุดหมายของการเดินทาง และ 82% อยากให้มีแอปหรือเว็บไซต์ที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางที่ชุมชนท้องถิ่นจะได้รับประโยชน์ในเชิงบวก หากธุรกิจท่องเที่ยวภายในชุมชนนั้นเติบโตขึ้น นอกจากนี้ 85%3 ต้องการให้เงินที่ใช้จ่ายไประหว่างท่องเที่ยวของพวกเขาส่งผลเชิงบวก หรือพัฒนาชุมชนท้องถิ่นนั้นๆ และ 85%3 ก็ต้องการสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่สะท้อนวัฒนธรรมของคนในท้องถิ่นนั้นๆ อย่างแท้จริง
ด้านผลสำรวจของ อโกด้า แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยว พบว่า คนไทยมองสถานการณ์การท่องเที่ยวภายในประเทศในอีก 6 เดือนข้างหน้าจะเป็นไปในแง่ดี โดย 3 ใน 5 คาดหวังว่าจะสามารถท่องเที่ยวได้อีกครั้ง ซึ่ง 38% ของคนกลุ่มนี้คาดหวังว่าจะท่องเที่ยวแบบไม่มีข้อจำกัดได้ ส่วนอีก 23% คาดหวังว่าจะท่องเที่ยวได้แต่คงยังมีข้อจำกัด หรือต้องท่องเที่ยวผ่านทราเวลบับเบิล (travel bubble) หรือทราเวลคอริดอร์ (travel corridor) เท่านั้น
![](https://siamrath.co.th/files/styles/insert/public/img/20211027/88962dffe2cfb6d3f95e515fd413ee1def530e5ba915f042f25a8957c3a3ff46.jpg?itok=fOTGdbXW)