เมื่อช่วงสายวันนี้(26ต.ค.64) พ.ต.ท.บุญไทย มุลสุมาลย์ สารวัตรสอบสวน สภ.เขวาสินรินทร์ (เ ขวา สิน-นะ-ริน) ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 สภ.เขวาสินรินทร์ ว่า เกิดอุบัติเหตุ รถยนต์ ชนกับรถจักรยานยนต์ ทางหลวงสาย 214 ถนนจอมพระ-สุรินทร์ ช่วงบ้านนาเกา ต.แกใหญ่ อ.เมืองสุรินทร์ พื้นที่รับผิดชอบของ สภ.เขวาสินรินทร์ หลังได้รับแจ้งเหตุ ได้เดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ปิกอัพ ยี่อีซูชุ สีบรอนด์ เลขทะเบียน บน 499 สุรินทร์ บรรทุกตู้ลำโพงมาเต็มคันรถ ด้านหน้ารถพังยับเยิน ชนกับ รถจักยานยนต์ ยี่ฮ้อนด้าสีชมพู เลขทะเบียน1 กฏ 9221 สุรินทร์ สภาพท้ายรถพังยับและมีแผ่นป้ายรถปิกอัพติดยู่ที่บริเวณท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ ห่างจากรถปิกอัพ ไปประมาณ 10 เมตร ราว พบศพ นายสังคม ภูนุภา อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 14 ม.2 ต.โสน อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ นอนเสียเสียชีวิตห่างไปประมาณ 70 เมตร พบ ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ด.ช.ภาคภูมิ ยงแก้ว อายุ 12 ปี หลานชายที่นั่งซ้อนท้ายถูกรถลากไปตกข้างทางและถูกนำส่งโรงพยาบาลสุรินทร์ และเสียเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ขณะที่ผู้ขับขี่รถยนต์ปิกอัพยี่ห้ออีซูชุ เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปลงบันทึกประจำวัน ผู้สื่อข่าวยังไม่ทราบชื่อคนขับ พบเพียงเพื่อนผู้ขับขี่ นั่งรถมาด้วยกัน 3 คน บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ในระหว่างเกิดเหตุตนเองกับเพื่อนเดินทางกลับมาจากจังหวัดยโสธร ไปรับตู้ลำโพรงมาขาย กำลังเดินทางกลับบ้านที่ อ.ปราสาทจ.สุรินทร์ ในระหว่างขับรถกลับบ้าน พบรถจักรยานยนต์ ผู้ตายได้ขับออกจากบ้านหลังหนึ่งหลังจากนั้นก็จะขับรถย้อนกลับแต่ เนื่องจากรถตัวเองขับมาเส้นทางตรงทำให้คนขับรถปิกอัพหักหลบไม่ทันเพราะอยู่ในระยะกระชั้นชิด จึงชนเข้าอย่างจังทำให้ป้ายทะเบียนหลุดออกไปและลากทั้งคนทั้งรถจักรยานยนต์ไป ไกลประมาณ 70 เมตร ทำให้คนขับรถจักรยานยนต์เสียชีวิตในเกิดเหตุส่วนหลานอายุ 12 ปี ได้เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล
ส่วนที่บ้านผู้ที่เสียชีวิตทางญาติของผู้ตาย พากันตั้งเต้น และเตรียมจัดงานศพของน้ากับหลานชาย ด้วยบรรยากาศที่เศร้าโศกแม่ และญาติผู้เสียชีวิต ต่างพากันร้องไห้ ด้วยความเสียใจ โดยเฉพาะผู้เป็นแม่ ญาติต้องประคองและหายาดม ให้คอยให้ความช่วยเหลือ นายวิเชียร นามนุ ผู้ใหญ่บ้าน เล่าให้ฟังว่าหลานทั้งสองคนได้เดินทางจากบ้าน เพื่อนำเอาข้าวสารมาฝากให้ญาติที่อำเภอเขวาสินรินทร์ ในระหว่างที่นำข้าวสารมาให้ ตนกับญาติๆจึงบอกว่าให้นอนพักผ่อนก่อนกลับบ้านในช่วงเช้าวันนี้ พอรุ่งเช้าขับขี่จักรยานยนต์ จะพาหลานกลับบ้านจึงได้ถูกรถกระบะชนเสียชีวิตทั้งสองคนและที่พูดกันว่า ลูกตนขับรถย้อนรถก็ยังไม่เชื่อว่าเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ก็เชื่อรถปิกอัพ คงขับมาด้วยความเร็วจึงพุงชนอย่างแรง จนทำให้ลูกและหลานชายเสียชีวิตทั้งสองคนอยากขอความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
อย่างไรก็ตามพ.ต.ท.บุญไทย มุลสุมาลย์ สารวัตรสอบสวน สภ.เขวาสินรินทร์ ได้บันทึกภาพเก็บหลักฐาน พร้อมสอบปากคำเพื่อนคนขับรถที่นั่งมาด้วย ในเบื้องต้น พร้อมจะเรียกผู้ขับขี่รถปิกอัพมาสอบปากคำพร้อมดำเนินตามกฎหมายต่อไป
-
ขณะที่ผู้ขับขี่รถยนต์ปิกอัพยี่ห้ออีซูชุ เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปลงบันทึกประจำวัน ผู้สื่อข่าวยังไม่ทราบชื่อคนขับ พบเพียงเพื่อนผู้ขับขี่ นั่งรถมาด้วยกัน 3 คน บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ในระหว่างเกิดเหตุตนเองกับเพื่อนเดินทางกลับมาจากจังหวัดยโสธร ไปรับตู้ลำโพรงมาขาย กำลังเดินทางกลับบ้านที่ อ.ปราสาทจ.สุรินทร์ ในระหว่างขับรถกลับบ้าน พบรถจักรยานยนต์ ผู้ตายได้ขับออกจากบ้านหลังหนึ่งหลังจากนั้นก็จะขับรถย้อนกลับแต่ เนื่องจากรถตัวเองขับมาเส้นทางตรงทำให้คนขับรถปิกอัพหักหลบไม่ทันเพราะอยู่ในระยะกระชั้นชิด จึงชนเข้าอย่างจังทำให้ป้ายทะเบียนหลุดออกไปและลากทั้งคนทั้งรถจักรยานยนต์ไป ไกลประมาณ 70 เมตร ทำให้คนขับรถจักรยานยนต์เสียชีวิตในเกิดเหตุส่วนหลานอายุ 12 ปี ได้เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล
ส่วนที่บ้านผู้ที่เสียชีวิตทางญาติของผู้ตาย พากันตั้งเต้น และเตรียมจัดงานศพของน้ากับหลานชาย ด้วยบรรยากาศที่เศร้าโศกแม่ และญาติผู้เสียชีวิต ต่างพากันร้องไห้ ด้วยความเสียใจ โดยเฉพาะผู้เป็นแม่ ญาติต้องประคองและหายาดม ให้คอยให้ความช่วยเหลือ นายวิเชียร นามนุ ผู้ใหญ่บ้าน เล่าให้ฟังว่าหลานทั้งสองคนได้เดินทางจากบ้าน เพื่อนำเอาข้าวสารมาฝากให้ญาติที่อำเภอเขวาสินรินทร์ ในระหว่างที่นำข้าวสารมาให้ ตนกับญาติๆจึงบอกว่าให้นอนพักผ่อนก่อนกลับบ้านในช่วงเช้าวันนี้ พอรุ่งเช้าขับขี่จักรยานยนต์ จะพาหลานกลับบ้านจึงได้ถูกรถกระบะชนเสียชีวิตทั้งสองคนและที่พูดกันว่า ลูกตนขับรถย้อนรถก็ยังไม่เชื่อว่าเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ก็เชื่อรถปิกอัพ คงขับมาด้วยความเร็วจึงพุงชนอย่างแรง จนทำให้ลูกและหลานชายเสียชีวิตทั้งสองคนอยากขอความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
อย่างไรก็ตามพ.ต.ท.บุญไทย มุลสุมาลย์ สารวัตรสอบสวน สภ.เขวาสินรินทร์ ได้บันทึกภาพเก็บหลักฐาน พร้อมสอบปากคำเพื่อนคนขับรถที่นั่งมาด้วย ในเบื้องต้น พร้อมจะเรียกผู้ขับขี่รถปิกอัพมาสอบปากคำพร้อมดำเนินตามกฎหมายต่อไป
-