จากกรณี ที่พลเอกประวิทย์ วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมาได้ร่วมประชุมกับหลายหน่วยงาน โดยในที่ประชุมได้กำชับให้ทางจังหวัดกาญจนบุรี เน้นดูแลปัญหาแรงงานเมียนมา ให้เข็มข้นกว่าปกติ และหากพบว่ามีหน่วยงานภาครัฐเข้าไปพัวพันให้ดำเนินการอย่างเฉียบขาด เรื่องนี้โดยนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9 พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.อ.เฉลิมชัย ชัดใจ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.อ.ธัชเดช อาบัวรัตน์ รอง.ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.กก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนธิกำลังเฝ้าระวังป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิด โดยเฉพาะการลักลอบเข้ามาราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายของบุคคลต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้านในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเน้นย้ำบริเวณชายแดน 5 อำเภอ ที่มีแนวเขตติดกับประเทศเมียนมา ประกอบด้วย อ.ด่านมะขามเตี้ย อ.เมืองกาญจนบุรี อ.ไทรโยค อ.ทองผาภูมิ และ อ.สังขละบุรี ที่มีระยะทางตามแนวชายแดนรวมกันประมาณ 371 กิโลเมตรนั้น ล่าสุดวันนี้ 25 ต.ค.64 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารกองพลทหารราบที่ 9 กกล.สุรสีห์ โดยหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการฝ่ายข่าวฯ ว่าจะมีบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาเป็นจำนวนมาก ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายโดยใช้ช่องทางธรรมที่มีชายแดนติดกับประเทศเมียนมาในพื้นที่ หมู่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงสนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ร้อย.ตชด.136 เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เจ้าตำรวจ สภ.ไทรโยค เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ไทรโยค และ เจ้าหน้าที่สาธารณะสุข อ.ไทรโยค เดินทางไปตรวจสอบบริเวณจุดที่ได้รับแจ้ง พบกลุ่มบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาทั้งชายและหญิงหลบซ่อนตัวอยู่ภายในป่าท้องที่หมู่ 4 ต.ศรีมงคล เจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุม นับรวมกันได้ทั้งหมด จำนวน 141 คน เป็นชาย 75 คน หญิง 55 คน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย เบื้องต้น ไม่พบสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส จากการสอบถามทราบว่า แรงงานทั้งหมดเป็นชาว จ.ทวาย จ.พะโค กรุงย่างกุ้ง รวมทั้งรัฐยะไข่ และ จ.เมาะลำไย ประเทศเมียนมา โดยมีจุดมุ่งหมายจะไปทำงานในพื้นที่ของจังหวัดชั้นใน โดยก่อนเดินทางข้ามชายแดนเข้ามาในประเทศไทย ได้จ่ายค่าหัวให้กับนายหน้าขบวนการขนแรงงานเถื่อนไปแล้วรายละ 20,000 บาท เพื่อนำพาไปยังจุดหมายตามข้อตกลงหลังสอบสวนปากคำเสร็จ เจ้าหน้าที่จึงทยอยควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการ ก่อนที่จะดำเนินคดีในข้อหา กระทำผิดฐาน ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต (พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522) และฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ตามมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019 ต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันได้จับกุมแรงงานชาวเมียนมาที่ลักลอบเข้ามาทางด้านชายแดนอำเภอไทรโยค ได้ จำนวน 120 คน ซึ่งวันนี้เพียงวันเดียว เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมบุคคลต่างด้าวได้ทั้งหมด มากถึง 189 คน เรียกว่าจับได้แทบทุกวัน ล่าสุดเมื่อเวลา 17.30 น. ของวันที่ 25 ต.ค. 2564 มีรายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่ทหาร กกล.สุรสีห์ ฯ ชุดฉก.ลาดหญ้า ได้รับการประสานจาก ชุดปฏิบัติการข่าว กกล.สุรสีห์ ทราบว่าจะมีการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง จึงจัดกำลังร่วมกับ ร้อย.ตชด.136, สภ.ไทรโยค ฝ่ายปกครอง อ.ไทรโยค และ สาธารณะสุข อ.ไทรโยค เข้าทำการตรวจสอบ พบผู้กระทำผิด ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต (พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522) และฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ตามมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019 สัญชาติเมียนมา จำนวน 71 ราย (ช.36 ญ.35) บริเวณ บ.พุพญา หมู่ที่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งจากการเข้าไปตรวจพบต่างด้าวทั้งหมดได้นำใบไม้มารองปูนอนพักแรม รอการเดินทางเข้าพื้นที่ชั้นใน ตามแหล่งต่างๆ ที่ได้นัดกับผู้นำพากันไว้ แต่ถูกเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจพบและจับกุมได้เสียก่อน จึงไม่พบผู้นำพาแต่อย่างใด สอบถามเบื้องต้น ทราบว่าทั้งหมดเดินทางมาจาก ทวาย, พะโค และ เมาะลำไย สมม. จากนั้นเดินทางต่อถึงฝั่งชายแดนไทย และจะเข้าไปในพื้นที่จ.สมุทรสาคร, กทม., จ.นครปฐม, จ.สระบุรี, จ.ชลบุรี และ จ.กาญจนบุรี โดยจะจ่ายเงินให้กับนายหน้าเมื่อถึงที่หมาย เป็นเงิน 17,000 - 20,000 บาท/คน จนท.สาธารณสุข ได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ผู้ต้องหาเบื้องต้น ไม่พบอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินการสืบสวน สอบสวนเพิ่มเติม และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สาเหตุที่บุคคลต่างด้าวเหล่านี้ได้แอบลักลอบหลบหนีเข้ามาเตรียมรอเข้าพื้นที่ชั้นในอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทราบข่าวว่า รัฐบาลโดยกระทรวงแรงงาน จะเปิดลงทะเบียนบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาทำงานอย่างไม่ถูกต้องอีกระลอกหนึ่ง ให้เป็นแรงงานถูกต้อง ทำให้บุคคลต่างด้าวนับหมื่นคนเตรียมแอบลักลอบเข้ามาสวมรอยเพื่อรอการลงทะเบียนอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วย โดยเฉพาะทหารตามแนวชายแดนต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างหนักมากกว่าปกติ เพื่อยับยั้งแรงงานเหล่านี้ สร้างรายได้และผลประโยชน์อย่างมหาศาลให้กับขบวนการขนคนเถื่อนข้ามชาติ ขบวนการขนคนเถื่อนในพื้นที่ จ.กาญจน์ เป็นเครือข่ายใหญ่มีเครือข่ายในหลายจังหวัด แบ่งเป็นกลุ่มๆ หลายกลุ่ม ต้องจ่ายค่าผ่านทางตามขั้นตอนทุกขั้นตอน กระทำมาเป็นเวลาช้านานจนบางคนมีฐานะเข้าขั้นเศรษฐี สามารถหลุดรอดจากการตรวจสอบจับกุมไปได้โดยตลอด สิ่งที่ประชาชนคนเมืองกาญจน์ หวั่นเกรงที่สุดในขณะนี้ เกรงว่า บุคคลต่างด้าวเมียนมาที่ลักลอบเข้ามา บางส่วนสามารถหลุดรอดการจับกุมไปได้จะเป็นตัวพาหะนำเชื้อโควิด-19 ทั้งสายพันธุ์เก่า และสายพันธุ์ใหม่เข้ามาแพร่ระบาดให้กับคนไทยในพื้นที่ชั้นในตามจังหวัดต่างๆ ที่คนเหล่านี้ไปพักอาศัย และแอบลักลอบทำงานปะปนกับแรงงานที่ลงทะเบียนทำงานในประเทศที่เข้าเมืองอย่างถูกต้อง