วันที่ 22 ต.ค.64 เพจเฟซบุ๊ก "ชมรมแพทย์ชนบท" โพสต์ข้อความ ระบุว่า " สี่จังหวัดชายแดนใต้ระบาดหนักมาก แต่ทำไม ATK สปสช. พบเชื้อน้อยมาก อัตราการติดเชื้อของชายแดนใต้หนักมาก การตรวจ RT-PCR ในกลุ่มเสี่ยงสูงนั้น พบการติดเชื้อสูง 20-50% ตามความรุนแรงแต่ละพื้นที แต่รายงานของ สปสช. เมื่อวันที่22 ตุลาคม 2564 ชัดเจนว่า LEPU ที่ สปสช.แจกมาลงมาใน เขต 12 มีจำนวน 1,022,500 ชิ้น ได้แจกจ่ายไปแล้ว 141,988 ชิ้น หรือราว 14% เท่านั้น ทั้งๆที่ระบาดหนัก ประชาชนมีความต้องการ การตรวจสูงมาก แต่ก็มีกลุ่มเสี่ยง(กลุ่มที่มีอาการ กลุ่มที่ใกล้ชิดผู้ป่วย พื้นที่เสี่ยง)มาขอรับเพียง 14% ในจำนวนที่รับไป 14% นี้ มีการลงผลการตรวจไว้ผ่านแอปเป๋าตังส์จำนวน 17,135 ราย โดยมีผลบวก 397คนหรือ 2.3% เท่านั้น เชื่อว่าคนที่รับไปเป็นหลักแสนคนนั้นมีครึ่งหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่ตรวจแล้ว แต่ไม่ได้ลงผล ส่วนใหญ่คงผลเป็นลบ เพราะหากเป็นบวก มักจะลงผลเพื่อการเข้าสู่ระบบการรักษากักตัว ดังนั้นอัตราการพบเชื้อจริงๆจาก ATK นี้จึงน่าจะต่ำกว่า 2.3%มาก ไม่ใกล้เคียงกับที่ อย. องค์การเภสัชรับรองมาตรฐานไว้เลย ถ้าชุดตรวจนี้ หากมีการจัดซื้อเป็นไปตามเจตนารมณ์เดิม คือให้ใช้ 2 in 1 เน้นให้เจ้าหน้าที่ใช้ในการควบคุมโรค และใช้แจกชาวบ้านใช้ได้ด้วย มีความแม่นยำสูง เชื่อว่าจะแจกจ่ายจนไม่มีเหลือแล้ว ATK 1 ล้านชุดนั้นไม่ใช่น้อย แทบจะแจกได้ทุกหลังคาเรือนละชุดในจังหวัดชายแดนใต้ แต่เพราะความไม่มั่นใจ จึงตกค้างไม่มีใครขอรับไปตรวจ โรงพยาบาลก็ยอมซื้อ ATK เองมาใช้ การควบคุมโรคในชายแดนใต้จึงเอวังเสียโอกาสไปอย่างไม่ควรจะเป็น ปล. ขอบคุณข้อมูลจาก สปสช.ที่เผยแพร่ผ่าน dashboard อย่างไม่ปกปิด"